การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัญหาความต้องการในการออกแบบบรรจุภัณฑ์กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ฯ 2) เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ฯ และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกะปิคลองด่านชุมชน 3 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 9 คน ผลการศึกษาพบว่า สภาพปัญหาของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ฯ นั้นขาดบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมแก่การเป็นของฝากและมีความต้องการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีลักษณะเหมาะสมแก่การเป็นของฝากโดยวัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์คือกระดาษ มีรูปแบบบรรจุภัณฑ์เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าพร้อมหูจับสำหรับพกพา สามารถพับเก็บขนส่งสะดวก และซ้อนทับเพื่อเรียงเป็นชั้นได้มีความแข็งแรงทนทาน สีบรรจุภัณฑ์ที่ใช้คือสีน้ำตาลอ่อน ส่วนสีฉลากคือสีขาว มีรายละเอียดที่ระบุในฉลากดังนี้ สูตรทำน้ำพริกกะปิ ส่วนประกอบ วันผลิตและวันหมดอายุ ความเป็นมาของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ฯ QR Code เบอร์โทรศัพท์ เรื่องราวสั้น ๆ ชื่อกลุ่ม สถานที่ผลิต พร้อมทั้งใช้ภาพประกอบเป็นที่ตั้งของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ฯ และภาพเคยแดง ผลการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ฯ พบว่าการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของสินค้า ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ และความพึงพอใจต่อรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของสมาชิกกลุ่ม ฯ พบว่าบรรจุภัณฑ์รูปแบบที่ 1 มีระดับความพึงพอใจมากที่สุด ( x ̅ = 4.57, S.D.= 0.22) โดยมีด้านสีได้ระดับความพึงพอใจมากที่สุด ( x ̅ = 4.74, S.D.= 0.06) รองลงมาคือด้านฉลากมีระดับความพึงพอใจมากที่สุด ( x ̅ = 4.69, S.D.= 0.10) น้อยที่สุดคือ ด้านคุณสมบัติระดับความพึงพอใจปานกลาง ( x ̅ = 3.83, S.D.=1.58) ตามลำดับ
ชุมชนคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ มีพื้นที่ส่วนหนึ่งติดทะเล วิถีชุมชนชาวคลองด่าน มีภูมิปัญญาในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบทางทะเล เช่น กะปิสืบทอดมาจากบรรพบุรุษเป็นเวลายาวนานกว่าร้อยปี สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน จนเกิดการรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนคลองด่าน 3 มุ่งเน้นการผลิตกะปิคุณภาพ รสชาติดี แต่ไม่สามารถจำหน่ายนอกชุมชนได้มากนัก ทางสำนักนักงานเกษตรอำเภอบางบ่อ จึงวางแผนการดำเนินการเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับกลุ่มฯ โดยลงพื้นที่ร่วมกับนักศึกษาสหกิจศึกษา (ญาณวิชญ์ เธียรนาราโรจน์) เพื่อจัดกิจกรรมประชุมหารือ วิเคราะห์ swot analysis ให้กับกลุ่มพบว่าทางกลุ่มประสบปัญหาเรื่องราคาจำหน่าย เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ไม่สวยงาม ขาดอัตลักษณ์ ผู้บริโภคภายนอกชุมชนขาดความเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ ประกอบกับทางสำนักงานเกษตรอำเภอบางบ่อ ได้รับงบประมาณโครงการพัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชน ทางพี่เลี้ยงซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรอำเภอบางบ่อ จึงมอบหมายโจทย์โครงงานสหกิจศึกษาให้กับข้าพเจ้าในฐานะนักศึกษาปฏิบัติสหกิจศึกษาได้มีโอกาสในการร่วมพัฒนา ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้แก่กลุ่มฯ และนำโจทย์ที่ได้รับหารือกับอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาโจทย์และจัดทำเครื่องมือ เพื่อแก้ปัญหาให้กับกลุ่มฯ โดยมีพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ ช่วยเหลือในการติดต่อลงพื้นที่สัมภาษณ์ปัญหา และความต้องการที่แท้จริงของกลุ่ม เพื่อนำมรรจุภัณฑ์ จำนวน 5 แบบ ไปนำเสนอให้กับทางกลุ่มฯ และสอบถามความพึงพอใจจากผู้บริโภคจนได้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม นำไปใช้ได้จริง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และสร้างรายได้เพิ่มให้กลุ่มฯ
คณะบริหารธุรกิจ
อุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพอากาศพร้อมการควบคุมอุปกรณ์ภายนอก เป็นอุปกรณ์ตรวจวัดพร้อมบันทึกสภาวะของอากาศ พร้อมความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์ภายนอก (เช่น พัดลม หรือ เครื่องฟอกอากาศ) ให้ทำงานตามสภาวะของอากาศและเงื่อนไขที่ผู้ใช้งานกำหนดไว้ได้
คณะบริหารธุรกิจ
ปัจจุบันปัญหาที่จอดรถในเขตเมืองเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความแออัดของจราจร การบริหารพื้นที่ และสิ่งแวดล้อม ระบบจอดรถอัตโนมัติ (Automated Parking System: APS) เป็นนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่ ลดระยะเวลาค้นหาที่จอด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก งานวิจัยนี้ศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับเทคโนโลยี APS โดยใช้กรอบแนวคิด UTAUT2 และตัวแปรสำคัญ เช่น ความคาดหวังด้านประสิทธิภาพ (Performance Expectancy), ความง่ายในการใช้งาน (Effort Expectancy), อิทธิพลทางสังคม (Social Influence), ความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี (Trust in Technology) และจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Consciousness) โดยโครงการ APS Evolution นำเสนอโซลูชันการจอดรถอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นสำหรับผู้ใช้ในเมือง โดยมุ่งเน้น การพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้ใช้และการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ
วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและพัฒนาระบบขับเคลื่อนต่อพ่วงอุปกรณ์การเกษตรโดยใช้เทคโนโลยี RFID พร้อมทั้งศึกษาประสิทธิภาพการเคลื่อนที่บนพื้นผิวที่แตกต่างกัน ได้แก่ พื้นปูนคอนกรีตและพื้นสนามหญ้า การทดลองมุ่งเน้นการตรวจสอบระยะการอ่านค่าแท็ก (Tag) ภายใต้ระดับกำลังส่ง 20 dBm, 23 dBm และ 26 dBm รวมถึงผลกระทบของมุมเสาอากาศต่อประสิทธิภาพการตรวจจับ นอกจากนี้ ระบบถูกทดสอบในเส้นทางตรง เลี้ยวซ้าย และเลี้ยวขวา ที่ระยะ 2 เมตร, 4 เมตร และ 6 เมตร ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนที่ในเส้นทางตรงบนพื้นปูนคอนกรีตที่ระยะ 4 เมตรให้ค่าความเร็วเฉลี่ยสูงสุดที่ 0.4736 m/s และมุมองศาเฉลี่ย 91.6° ขณะที่พื้นสนามหญ้าให้ค่าความเร็วเฉลี่ย 0.4483 m/s และมุมองศาเฉลี่ย 91.1° ในกรณีของเส้นทางเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา พบว่าการเคลื่อนที่บนพื้นปูนคอนกรีตมีค่าความเร็วเฉลี่ยสูงกว่าพื้นสนามหญ้า โดยเฉพาะที่ระยะ 4 เมตรซึ่งพบค่ามุมองศาที่แตกต่างกัน การศึกษานี้ช่วยให้เข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของรถขับเคลื่อนและเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในอนาคต