การเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เเละลดต้นทุน โดยกระดับคุณภาพการทำเกษตรกรรมในปัจจุบัน ซึ่งนวัตกรรมที่สำคัญในด้านนี้คือ แขนกลระบบราง ซึ่งถูกออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยใช้ระบบรางที่มีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูง การใช้งานของแขนกลนี้ครอบคลุมหลายกระบวนการ เช่น การปลูกพืช การคัดเเยก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว รวมถึงการจัดการทรัพยากรต่างๆ โดยที่สามารถทำงานได้ต่อเนื่องและลดการใช้แรงงานมนุษย์ในงานที่ซ้ำๆเเละมีความเสี่ยงสูง ผลการศึกษาพบว่า การใช้แขนกลระบบรางในภาคการเกษตรสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุนการผลิต และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้หุ่นยนต์ในกระบวนการเกษตรสามารถลดการปนเปื้อน ลดความเสี่ยงที่จะทำให้พืชเสียหาย ทำให้การเกษตรมีความยั่งยืนมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความแม่นยำในการดำเนินงานในพื้นที่จำกัดหรือฟาร์มที่มีการปลูกพืชหลากหลายชนิด จากผลการวิจัยนี้สามารถสรุปได้ว่า การนำเทคโนโลยีแขนกลระบบรางมาใช้ในเกษตรกรรมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระยะยาว แต่ยังเป็นการส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืนและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรองรับความต้องการในอนาคตของในด้านการเกษตร
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม การที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาระบบการเกษตรกรรม ให้มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก เราจึงได้พัฒนา “เเขนกลระบบรางเพื่อการเกษตรอัฉริยะ” โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยลดการใช้แรงงานคน เพิ่มความแม่นยำในการทำงาน และสามารถทำงานได้ตลอดเวลาไม่หยุดพัก นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิต ทำให้เกษตรกรสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น และช่วยพัฒนาความยั่งยืนในภาคการเกษตรของประเทศไทย

คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
โครงงานนี้นำเสนอการสร้างเครื่องมือวัดค่าความหนาแน่นอิเล็กตรอนรวมด้วย GPS แบบความถี่เดียว โดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีเกี่ยวกับจำนวนอิเล็กตรอนรวมในชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์และเครื่องมือวัดค่าอิเล็กตรอนรวมด้วย ค่าเวลาหน่วงของ GPS มาทำการออกแบบเครื่องมือวัดค่าความหนาแน่นอิเล็กตรอนรวมด้วย GPS แบบความถี่เดียว โดยประกอบด้วยสายอากาศ เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม GPS แบบความถี่เดียว หน่วยประเมินผลข้อมูลและคำนวณจำนวนอิเล็กตรอนรวม และหน่วยแสดงผลข้อมูลค่าอิเล็กตรอนรวม ทดสอบการทำงานของเครื่องวัดอิเล็กตรอนรวมด้วย GPS แบบความถี่เดียว โดยการเปรียบเทียบกับข้อมูลค่าอิเล็กตรอนรวมที่ได้จากโมเดล IRI (International Reference Ionosphere) ซึ่งเป็นโมเดลอิเล็กตรอนอ้างอิงของโลก และนำเครื่องวัดอิเล็กตรอนรวมด้วย GPS แบบความถี่เดียวไปใช้งานจริง ผลของการเปรียบเทียบและใช้งานจริง สรุปได้ว่าเครื่องมือวัดค่าอิเล็กตรอนรวมด้วย GPS แบบความถี่เดียว สามารถใช้งานได้จริงและมีค่าความแตกต่างกับ โมเดล IRI อยู่ที่ 50 TECU

คณะอุตสาหกรรมอาหาร
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการหมักร่วม (Co-fermentation) ระหว่างแบคทีเรียกรดแลคติก (Lactic Acid Bacteria, LAB) และยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ในการผลิตเบียร์เปรี้ยว (Sour Beer) โดยมุ่งเน้นผลกระทบของการหมักร่วมต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ค่า pH ปริมาณกรดอินทรีย์ ปริมาณน้ำตาล และคุณลักษณะทางประสาทสัมผัส ในการทดลอง ใช้แบคทีเรียกรดแลคติกสายพันธุ์ที่คัดเลือก และยีสต์ S. cerevisiae ในสภาวะการหมักที่ควบคุม อัตราส่วนของจุลินทรีย์ถูกปรับให้เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตและการสร้างสารสำคัญ ผลการทดลองพบว่า การหมักร่วมสามารถลดค่า pH ได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการหมักด้วยยีสต์เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มขึ้นของกรดแลคติกเนื่องจากการใช้น้ำตาลของเชื้อLAB ซึ่งส่งผลต่อรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเบียร์เปรี้ยว

คณะบริหารธุรกิจ
BrushXchange เป็นแบรนด์แปรงสีฟันที่มุ่งเน้นการลดปัญหาขยะพลาสติกในประเทศไทย ผ่านการนำเสนอแปรงสีฟันที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล พร้อมหัวแปรงที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ เพื่อช่วยลดการสร้างขยะจากแปรงสีฟันแบบดั้งเดิม การออกแบบที่ทันสมัยและใช้งานง่าย เน้นความทนทาน ความสะดวกสบาย และความคุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม แบรนด์มีเป้าหมายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมดูแลช่องปาก โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ การตลาดเน้นการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เช่น Instagram และ TikTok รวมถึงความร่วมมือกับองค์กรที่สนับสนุนแนวคิดความยั่งยืน และการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีก เช่น Lotus’s และ Tops BrushXchange ยังเน้นการสร้างภาพลักษณ์ด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยบรรจุภัณฑ์กระดาษรีไซเคิลและการจัดกิจกรรมรณรงค์ความยั่งยืน เป้าหมายระยะยาวของแบรนด์คือการเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาดแปรงสีฟันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย และการส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนในสังคม