KMITL Innovation Expo 2025 Logo

การศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมของขิง ปลีกล้วย และกระเจี๊ยบในการห่อหุ้มลิโพโซมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและปริมาณสารฟีนอลิก

รายละเอียด

ปัจจุบันการบริโภคอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และภาวะเสื่อมของเซลล์ ขิง (Zingiber officinale) ปลีกล้วย (Musa paradisiaca L.) และกระเจี๊ยบ (Hibiscus sabdariffa L.) เป็นพืชสมุนไพรที่มีสารประกอบฟีนอลิกสูง ซึ่งเป็นสารสำคัญที่มีบทบาทในการต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตาม สารสำคัญจากพืชเหล่านี้มักมีข้อจำกัดด้านความคงตัวเมื่อสัมผัสกับแสง อุณหภูมิ และออกซิเจน ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลง งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมของขิง ปลีกล้วย และกระเจี๊ยบ ในการกักเก็บด้วยลิโพโซม ซึ่งเป็นเทคนิคการห่อหุ้มสารสำคัญที่ช่วยเพิ่มความคงตัวของสารออกฤทธิ์และเพิ่มประสิทธิภาพในการนำส่งสารเข้าสู่ร่างกาย การศึกษานี้ดำเนินการโดยวิเคราะห์ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากขิง ปลีกล้วย และกระเจี๊ยบ ด้วยวิธี DPPH, ABTS และ FRAP รวมถึงการวัดปริมาณสารฟีนอลิกรวม (Total Phenolic Content, TPC) จากนั้นเลือกอัตราส่วนที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงสุดมาทำการห่อหุ้มด้วยลิโพโซม โดยใช้ฟอสโฟลิปิดเป็นองค์ประกอบหลักของโครงสร้างลิโพโซม จากนั้นวิเคราะห์ประสิทธิภาพของลิโพโซมในการกักเก็บสารสำคัญผ่านการคำนวณค่า Encapsulation Efficiency (EE%) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการห่อหุ้ม ผลการวิจัยคาดว่าจะช่วยระบุอัตราส่วนที่เหมาะสมของขิง ปลีกล้วย และกระเจี๊ยบที่สามารถเพิ่มฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงสุด และทำให้สารสำคัญมีความคงตัวมากขึ้นเมื่อผ่านกระบวนการห่อหุ้มด้วยลิโพโซม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพจากสมุนไพรที่สามารถรักษาคุณสมบัติทางชีวภาพของสารสำคัญได้ในระยะยาว

วัตถุประสงค์

การเสื่อมสภาพของเซลล์จากอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และการเสื่อมสภาพของเซลล์ในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนั้นการใช้สารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติจึงเป็นวิธีหนึ่งในการลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคเหล่านี้ ขิง ปลีกล้วย และกระเจี๊ยบ เป็นพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารฟีนอลิกที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความเสื่อมของเซลล์ อย่างไรก็ตาม สารเหล่านี้อาจสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อสัมผัสกับปัจจัยภายนอก เช่น แสง ความร้อน และออกซิเจน ดังนั้นการใช้เทคนิคการห่อหุ้มสารด้วยวิธีลิโพโซม จึงช่วยเพิ่มความเสถียรของสารสำคัญและเพิ่มประสิทธิภาพในการนำส่งสารไปยังจุดเป้าหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญ

นวัตกรรมอื่น ๆ

ขนมนูกัต

วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

ขนมนูกัต

ขนมทีี่ทำจากแป้งและมีส่วนผสมทำให้มีความเหนียวคล้ายกับหมากฝรั่ง

ก๊าซชีวภาพและชีวภัณฑ์เพื่อการเกษตรและสิ่งแวดล้อม

คณะวิทยาศาสตร์

ก๊าซชีวภาพและชีวภัณฑ์เพื่อการเกษตรและสิ่งแวดล้อม

-

ชุดดับไฟป่า (Wildland Fire Suit)

คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ

ชุดดับไฟป่า (Wildland Fire Suit)

ชุดดับไฟป่า มีส่วนประกอบและการใช้งาน ดังนี้ออกแบบพัฒนาชุดดับไฟป่าให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่และสภาพพื้นที่ปฏิบัติงาน ซึ่งประกอบด้วย เสื้อ และกางเกงวัสดุที่ใช้ในการตัดเย็บชุดเป็นผ้าอรามิด ที่มีคุณสมบัติสามารถกันไฟลามได้ เพื่อป้องกันไฟคลอกเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่กรณีไฟป่าลามมาประชิดตัว ต่างจากชุดที่สวมใส่ในปัจจุบันที่ไม่สามารถช่วยกันไฟได้ ตัวเสื้อออกแบบให้ด้านข้างลำตัวมีตะข่ายระบายอากาศ เพื่อระบายความร้อนภายในให้อากาศสามารถท่ายเทได้ดี แขนเสื้อบริเวณข้อศอกมีจุด Support เพื่อป้องกันการสัมผัสกับพื้นหรือสัมผัสสิ่งกีดขวางปกคอเสื้อมีช่องสำหรับใส่พัดลมพกพา และมีช่องหมุนเวียนอากาศของพัดลมอยู่ด้านหลัง ซึ่งพัดลมสามารถเปิดใช้งานขณะปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่าได้ ช่วยให้อุณหภูมิภายในร่างกายไม่ร้อนจนเกินไป ลดความเสี่ยงต่อการเกิด ฮีทสโตรก เมื่อพัดลมแบตหมดสามารถถอดนำออกมาชาร์จและใส่กลับเข้าไปเมื่อต้องการใช้งานกางเกงออกแบบให้ด้านข้างบริเวณด้านในหรือจุดอับมีตะข่ายระบายอากาศ เพื่อระบายความร้อนภายในให้อากาศสามารถท่ายเทได้ดี กางเกงบริเวณหัวเข่ามีจุด Support เพื่อป้องกันการสัมผัสกับพื้นหรือสัมผัสสิ่งกีดขวาง ชุดดับไฟป่า ประกอบด้วย เสื้อ และ กางเกง ได้ออกแบบและพัฒนาให้สามารถผลิตได้ภายในประเทศ ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ