KMITL Expo 2026 LogoKMITL 66th Anniversary Logo

การศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมของขิง ปลีกล้วย และกระเจี๊ยบในการห่อหุ้มลิโพโซมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและปริมาณสารฟีนอลิก

รายละเอียด

ปัจจุบันการบริโภคอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และภาวะเสื่อมของเซลล์ ขิง (Zingiber officinale) ปลีกล้วย (Musa paradisiaca L.) และกระเจี๊ยบ (Hibiscus sabdariffa L.) เป็นพืชสมุนไพรที่มีสารประกอบฟีนอลิกสูง ซึ่งเป็นสารสำคัญที่มีบทบาทในการต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตาม สารสำคัญจากพืชเหล่านี้มักมีข้อจำกัดด้านความคงตัวเมื่อสัมผัสกับแสง อุณหภูมิ และออกซิเจน ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลง งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมของขิง ปลีกล้วย และกระเจี๊ยบ ในการกักเก็บด้วยลิโพโซม ซึ่งเป็นเทคนิคการห่อหุ้มสารสำคัญที่ช่วยเพิ่มความคงตัวของสารออกฤทธิ์และเพิ่มประสิทธิภาพในการนำส่งสารเข้าสู่ร่างกาย การศึกษานี้ดำเนินการโดยวิเคราะห์ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากขิง ปลีกล้วย และกระเจี๊ยบ ด้วยวิธี DPPH, ABTS และ FRAP รวมถึงการวัดปริมาณสารฟีนอลิกรวม (Total Phenolic Content, TPC) จากนั้นเลือกอัตราส่วนที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงสุดมาทำการห่อหุ้มด้วยลิโพโซม โดยใช้ฟอสโฟลิปิดเป็นองค์ประกอบหลักของโครงสร้างลิโพโซม จากนั้นวิเคราะห์ประสิทธิภาพของลิโพโซมในการกักเก็บสารสำคัญผ่านการคำนวณค่า Encapsulation Efficiency (EE%) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการห่อหุ้ม ผลการวิจัยคาดว่าจะช่วยระบุอัตราส่วนที่เหมาะสมของขิง ปลีกล้วย และกระเจี๊ยบที่สามารถเพิ่มฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงสุด และทำให้สารสำคัญมีความคงตัวมากขึ้นเมื่อผ่านกระบวนการห่อหุ้มด้วยลิโพโซม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพจากสมุนไพรที่สามารถรักษาคุณสมบัติทางชีวภาพของสารสำคัญได้ในระยะยาว

วัตถุประสงค์

การเสื่อมสภาพของเซลล์จากอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และการเสื่อมสภาพของเซลล์ในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนั้นการใช้สารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติจึงเป็นวิธีหนึ่งในการลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคเหล่านี้ ขิง ปลีกล้วย และกระเจี๊ยบ เป็นพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารฟีนอลิกที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความเสื่อมของเซลล์ อย่างไรก็ตาม สารเหล่านี้อาจสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อสัมผัสกับปัจจัยภายนอก เช่น แสง ความร้อน และออกซิเจน ดังนั้นการใช้เทคนิคการห่อหุ้มสารด้วยวิธีลิโพโซม จึงช่วยเพิ่มความเสถียรของสารสำคัญและเพิ่มประสิทธิภาพในการนำส่งสารไปยังจุดเป้าหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญ

นวัตกรรมอื่น ๆ

การพัฒนาตัวรับรู้เชิงสีเม็ดบีทสองชั้นของเคอร์คูมินสำหรับวิเคราะห์ ไพริดอกซีน (วิตามินบี6)ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโดยใช้ร่วมกับการตรวจวัดด้วย การประมวลผลภาพถ่าย

คณะวิทยาศาสตร์

การพัฒนาตัวรับรู้เชิงสีเม็ดบีทสองชั้นของเคอร์คูมินสำหรับวิเคราะห์ ไพริดอกซีน (วิตามินบี6)ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโดยใช้ร่วมกับการตรวจวัดด้วย การประมวลผลภาพถ่าย

การพัฒนาเม็ดบีทไฮโดรเจลแบบสองชั้นสำหรับใช้เป็นเซ็นเซอร์เชิงสีในการวิเคราะห์หาปริมาณวิตามินบี6 ในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเสริมวิตามิน และทำการตรวจวัดโดยใช้โทรศัพท์มือถือ โดยในการสร้างเม็ดบีทจะอาศัยแรงประจุไฟฟ้าในการทำให้เกิดเม็ดบีทไฮโดรเจลแบบสองชั้น

การจัดการตารางการรักษาเคมีบำบัดของผู้ป่วยโรงพยาบาลมะเร็งและแชทบอทให้คำปรึกษา

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ

การจัดการตารางการรักษาเคมีบำบัดของผู้ป่วยโรงพยาบาลมะเร็งและแชทบอทให้คำปรึกษา

การรักษาผู้ป่วยมะเร็งในแผนกเคมีบำบัดของโรงพยาบาลมะเร็งชลบุรีมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและไม่สะดวก เนื่องจากกระบวนการส่งผลตรวจเลือดผ่านแอปพลิเคชันไลน์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ทำให้การดำเนินงานขาดความคล่องตัว ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงพัฒนาโปรแกรมบริหารจัดการและติดตามผู้ป่วยมะเร็งในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชัน (web-based application) และแอปพลิเคชันไลน์ LINE LIFF (LINE Front-end Framework) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย ระบบเว็บแอปพลิเคชันออกแบบมาเพื่อใช้โดยบุคลากรทางการแพทย์ในการติดตาม นัดหมาย และเก็บข้อมูลผู้ป่วย ส่วนแอปพลิเคชันไลน์ ออกแบบสำหรับผู้ป่วยในการส่งผลตรวจเลือด ดูตารางนัดหมาย บันทึกอาการหลังรับยาเคมีบำบัด บันทึกค่าน้ำหนักของผู้ป่วยทุกสัปดาห์ และแชทบอทสำหรับให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วย ระบบนี้พัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยีไคลเอนต์-เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์ข้อมูลและสนับสนุนการวางแผนการรักษาอย่างอัตโนมัติ ส่งผลให้กระบวนการรักษาผู้ป่วยมะเร็งมีความรวดเร็ว ทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นวัตกรรมนาโนเซลลูโลสสู่อุตสาหกรรมความงาม

คณะวิทยาศาสตร์

นวัตกรรมนาโนเซลลูโลสสู่อุตสาหกรรมความงาม

ผลิตผล และผลพลอยได้ทางการเกษตร จัดเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมความงาม อุตสาหกรรมยา เส้นใยจากพืชจากการเกษตรมีองค์ประกอบ คุณสมบัติ และโครงสร้างที่เหมาะกับการนำไปใช้งานเป็นวัสดุผสมในอุตสาหกรรมเสริมความงาม ด้วยเทคโนโลยีการย่อยภายใต้คลื่นไมโครเวฟสามารถลดขนาดของเซลลูโลสเพื่อให้ได้นาโนเซลลูโลส (Cellulose Nanocrystals) ที่มีขนาดความยาว 50-1000 นาโนเมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 5-70 นาโนเมตร นาโนเซลลูโลสถูกนำมายึดติดบนสารสารสำคัญทางความงามเช่น กลีเซอรีน (Glycerin), กรดไฮยาลูรอนิก (Sodium Hyaluronate), กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือแม้แต่วิตตามิน เช่น นิโคตินาไมด์ (Nicotinamide) หรือ วิตามินบี 3 ระบบนำส่งสารสำคัญทางความงามเหล่านี้ที่ยึดติดบนนาโนเซลลูโลสเหล่านี้ สามารถแทรกซึมผ่านผิวหนังเพื่อกระตุ้นความงาม และความอ่อนเยาว์ได้ดียิ่งขึ้น