KMITL Innovation Expo 2025 Logo

มัลเบอร์รีคีเฟอร์ พรีไบโอติกพลัส

มัลเบอร์รีคีเฟอร์ พรีไบโอติกพลัส

รายละเอียด

มัลเบอร์รีคีเฟอร์ เป็นเครื่องดื่มจากผลหม่อนสุกที่ผ่านการหมัก ผลิตจากน้ำสกัดจากผลหม่อนสุก มีลักษณะปรากฎเป็นสีแดงชมพูซึ่งเป็นสีของสารแอนโทไซยานินตามธรรมชาติในผลหม่อน โดยแอนโทไซยานินมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีสารพรีไบโอติกฟรุคโทโอลิโกแซคคาไรด์ จุลินทรีย์โพรไบโอติก Lactobacillus และ Saccharomeces มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว มีความซ่า มีแอลกอฮอล์เล็กน้อย รสชาติและความซ่าเกิดจากเทคโนโลยีการผลิต ซึ่งใช้กระบวนการหมักจากจุลินทรีย์ มัลเบอร์รีคีเฟอร์ จัดเป็นเครื่องดื่มฟังค์ชัน (Functional Beverage) ที่ผลิตจากพืช (Plant Based Beverage) เหมาะกับผู้ที่แพ้น้ำตาลแลคโทส รวมถึงผู้ที่ไม่บริโภคเครื่องดื่มที่ผลิตจากน้ำนม ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น

วัตถุประสงค์

ผลหม่อนสุก เป็นผลิตผลจากหม่อนซึ่งมีการไปแปรรูปเป็นแยมหม่อน น้ำหม่อน ไวน์หม่อน การนำผลหม่อนมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มคีเฟอร์ในกลุ่มของ water kefir เป็นแนวคิดที่เพิ่มความหลากหลายให้กับเครื่องดื่มจากผลหม่อนโดยใช้เทคโนโลยีการหมักด้วจุลินทรีย์แลคโทบาซิลลัส และยีสต์ ได้เป็นเครื่องดื่มจากพืชที่มีความโดดเด่นด้านสี รสชาติ

นวัตกรรมอื่น ๆ

กระแสแห่งชน

คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ

กระแสแห่งชน

แบบจำลองเชิงแนวคิด (conceptual model) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิด Form follows function และความเรียบง่ายของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ (Modern Architecture) โดยออกแบบเป็นผลงานสามมิติที่ลดทอนมาจากรูปทรงของเก้าอี้เพื่อสื่อถึงการใช้งาน เน้นความเรียบง่ายด้วยเส้น ระนาบ และรูปทรงเรขาคณิต แสดงถึงความงามที่เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างประโยชน์ใช้สอยและรูปทรงที่เรียบง่ายดังเช่นแนวคิดของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

ต้นทุน ผลตอบแทนการปลูกข้าวโดยใช้สารเคมีและการปลูกข้าวโดยใช้สารชีวภัณฑ์ร่วมกับสารเคมีของเกษตรกร ตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ

คณะเทคโนโลยีการเกษตร

ต้นทุน ผลตอบแทนการปลูกข้าวโดยใช้สารเคมีและการปลูกข้าวโดยใช้สารชีวภัณฑ์ร่วมกับสารเคมีของเกษตรกร ตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ

จากการปฏิบัติงานสหกิจศึกษาครั้งนี้ ณ สำนักงานเกษตรอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ได้ศึกษาเรื่อง ต้นทุน ผลตอบแทนการปลูกข้าวโดยใช้สารเคมีและการปลูกข้าวโดยใช้สารชีวภัณฑ์ร่วมกับสารเคมีของเกษตรกร ตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาต้นทุน ผลตอบแทนการปลูกข้าวโดยใช้สารเคมีและการปลูกข้าวโดยใช้ชีวภัณฑ์ร่วมกับสารเคมีของเกษตรกร ตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ 2) เพื่อศึกษาปัญหาการใช้สารชีวภัณฑ์ในการปลูกข้าวของเกษตรกร ตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการผลการศึกษาพบว่าต้นทุนการผลิตข้าวนาปีโดยใช้สารเคมีและสารชีวภัณฑ์ร่วมกับสารเคมีปีเพาะปลูก 2567/68 แปลงที่ใช้สารชีวภัณฑ์ร่วมกับสารเคมี มีต้นทุนการผลิตรวมทั้งหมด 5,099.50 บาทต่อไร่ ประกอบด้วย ต้นทุนผันแปร 4,432.50 บาทต่อไร่ ต้นทุนคงที่ 667.00 บาทต่อไร่ แปลงที่ใช้สารเคมี มีต้นทุนการผลิตรวมทั้งหมด 5,129.00 บาทต่อไร่ ประกอบด้วย ต้นทุนผันแปร 4,390.00 บาทต่อไร่ ต้นทุนคงที่ 739.00 บาทต่อไร่ ผลต่างของต้นทุนการปลูกข้าวนาปีระหว่างแปลงที่ใช้สารเคมีและแปลงที่ใช้สารชีวภัณฑ์ร่วมกับสารเคมีเท่ากับ 114.50 บาทต่อไร่ ผลตอบแทนการผลิตข้าวนาปี ปีเพาะปลูก 2567/68 ของแปลงที่ใช้สาร ชีวภัณฑ์ร่วมกับสารเคมี ประกอบด้วย ปริมาณผลผลิต 1,000.00 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาผลผลิตเฉลี่ย 8,500.00 บาทต่อไร่ เกษตรกรมีรายได้ 8,585.00 บาทต่อไร่ และมีกำไร 3,485.50 บาทต่อไร่ แปลงที่ ใช้สารเคมี ประกอบด้วย ปริมาณผลผลิต 1,000.00 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาผลผลิตเฉลี่ย 8,500.00 บาทต่อไร่ เกษตรกรมีรายได้ 8,500 บาทต่อไร่ และมีกำไร 3,371.00 บาทต่อไร่ ผลต่างของรายได้รวมทั้งหมดในการปลูกข้าวนาปีระหว่างเกษตรกรที่ใช้สารเคมีและเกษตรกรที่ใช้สารชีวภัณฑ์ร่วมกับสารเคมีเท่ากับ 114.50 บาทต่อไร่ ด้านปัญหาในการจัดซื้อ/จัดหาสารชีวภัณฑ์ สารชีวภัณฑ์หาซื้อยากบางพื้นที่มีแหล่งจําหน่ายน้อยหรือไม่มีเลย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สนับสนุนสารชีวภัณฑ์ให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่องมีระดับปัญหามากที่สุด ด้านปัญหาการใช้สารชีวภัณฑ์ เมื่อผสมเชื้อสดกับส่วนผสมแล้วต้องใช้ให้หมดไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ เนื่องจากจะทำให้เสื่อมประสิทธิภาพลงมีระดับปัญหาที่มากที่สุด

การออกแบบพื้นที่เกษตร “ชีวิตบ้านสวน”

คณะเทคโนโลยีการเกษตร

การออกแบบพื้นที่เกษตร “ชีวิตบ้านสวน”

โครงงานนี้นำเสนอวิธีการออกแบบและการจัดการพื้นที่เกษตร จังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่กรณีศึกษาตั้งอยู่ที่ ตำบล วังด้ง อำเภอ เมืองกาญจนบุรี จังหวัด กาญจนบุรี พื้นที่ขนาดประมาณ 18 ไร่ เนื่องจากผู้ใช้งานมีความต้องการใช้ชีวิตเรียบง่ายในต่างจังหวัดกับบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติจึงออกแบบให้สอดคล้องกับแนวทางการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและยั่งยืน โดยมีการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านการดำรงชีวิตและการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตร โซนปลูกผักและผลไม้ถูกวางแผนให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศและชนิดของพืช เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่โซนเลี้ยงสัตว์ได้รับการจัดวางให้เป็นสัดส่วนแนวทางนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารและรายได้ แต่ยังเป็นรูปแบบของการใช้ชีวิตที่เกื้อกูลธรรมชาติ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับระบบนิเวศในระยะยาว มีการเก็บรายละเอียดของการวงตำแหน่งต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางลมและแสงของพื้นที่ รวมถึงการเขียนแบบที่ผ่านกระบวนการออกแบบและตรวจแบบอย่างสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อพื้นที่ใช้งาน