KMITL Innovation Expo 2025 Logo

พัฒนานิทานดนตรีเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงบริหารสำหรับเด็ก 0-3 ปี

รายละเอียด

นิทานดนตรีเสริมทักษะความคิดของเด็กอายุ 0-3 ปี โดยใช้ทักษะ EF เป็นตัวเสริมสร้างพัฒนาการสำหรับเด็กโดยเน้นเรื่องทักษะพื้นฐาน 3 อย่าง 1. ความจำเพื่อใช้งาน (Working Memory) 2. การยั้งคิดไตร่ตรอง (Inhibitory Control) 3. การยืดหยุ่นความคิด (Cognitive Flexibility)

วัตถุประสงค์

ทักษะการคิดเชิงบริหาร หรือ Executive Function เป็นทักษะสำคัญในเด็กยุคปัจจุบัน ที่ช่วยให้เด็กสามารถกำกับความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้สำเร็จ โดยหน้าที่ของทักษะการคิดเชิงบริหารประกอบด้วย 3 อย่างหลักได้แก่ ความสามารถในการจดจำ (Working Memory) ความยืดหยุ่นทางความคิด (Cognitive Flexibility) และความสามารถในการควบคุมและยับยั้งตนเอง (Inhibitory Control) อย่างไรก็ดีทักษะการคิดเชิงบริหารไม่ใช่สิ่งที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นสิ่งที่สองพัฒนาขึ้นได้ โดยหากเปรียบเทียบตามพัฒนาการทางด้านประสาทวิทยาจะพบว่าสมองในช่วง 3 ขวบปีแรกนั้นมีการไซแนปส์ (Synapse) หรือการเกิดจุดประสานระหว่างเซลล์ประสาทที่เกิดจากการเรียนรู้และประสบการณ์มากที่สุดในช่วงชีวิต ก่อนเกิดการตัดแต่งวงจรสมอง (Pruning) และสลายจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทที่ไม่ได้ใช้ทิ้งไป เพื่อจัดระเบียบการทำงาน การเรียกข้อมูลของสมองอันเป็นกระบวนการตามธรรมชาติของมนุษย์เพื่อรักษา ในปัจจุบันมีการศึกษาผลของการจัดกิจกรรมดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงบริหารจำนวนมาก และได้ผลไปในทิศทางเดียวกันว่ากิจกรรมดนตรีสามารถช่วยให้เด็กมีทักษะการคิดเชิงบริหารสูงขึ้น หรือมากกลุ่มที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมดนตรี อย่างไรก็ดีในประเทศไทยการเข้ากิจกรรมดนตรีสำหรับเด็กโดยเฉพาะในช่วง 0-3 ขวบ ที่ยังไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนนั้นจำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ความถี่ในการทำกิจกรรมไม่มากอาจเพียงสัปดาห์ละครั้งและต้องเดินทางไปที่โรงเรียนพิเศษซึ่งต้องใช้เวลามาก กลับกันในแทบทุกบ้านมักมีหนึ่งกิจกรรมที่ผู้ปกครองที่มีลูกเล็กมักทำเป็นประจำ ใช้ค่าใช้จ่ายน้อยและสามารถทำได้ที่บ้านในทุกๆ วัน นั้นคือการเล่านิทาน จากที่มาและความสำคัญข้างต้นผู้วิจัยจึงเห็นว่าการพัฒนานิทานดนตรีเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงบริหาร สำหรับเด็ก 0-3 ปี จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครองลดค่าใช้จ่าย ลดเวลา และสามารถทำกิจกรรมร่วมกับลูกได้ที่บ้านเป็นประจำ อันจะส่งผลต่อคุณภาพของเด็กที่จะมาเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคตต่อไป

นวัตกรรมอื่น ๆ

การเพิ่มประสิทธิภาพของอินเอียร์มอนิเตอร์สำหรับนักดนตรีที่มีปัญหาทางการได้ยิน

วิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต

การเพิ่มประสิทธิภาพของอินเอียร์มอนิเตอร์สำหรับนักดนตรีที่มีปัญหาทางการได้ยิน

นักดนตรีบางคนที่พิการทางการได้ยิน บางคนจบอาชีพการงาน แต่บางคนยังคงทำงานต่อไปโดยที่หูหนวกนั้นยากกว่านักดนตรีปกติมาก บางคนใช้เครื่องช่วยฟังในชีวิตประจำวันและใช้เครื่องช่วยฟังแบบอินเอียร์ในการแสดง สดซึ่งดูเหมือนปกติ แต่ในอินเอียร์ของพวกเขา ได้ยินเพียงเครื่องเมตรอนอมและกลองเท่านั้น เราจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของอินเอียร์มอนิเตอร์ให้ดีขึ้นจนใกล้เคียงปกติได้อย่างไร

ปัจจุบันการใช้จ่ายพลังงานของครัวเรือนในประเทศไทยเป็นอย่างไร

คณะวิทยาศาสตร์

ปัจจุบันการใช้จ่ายพลังงานของครัวเรือนในประเทศไทยเป็นอย่างไร

งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา และประมวลผลปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายพลังงานของครัวเรือนในประเทศไทย และวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายพลังงานของครัวเรือนในประเทศไทย โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัย คือ 57,600 ครัวเรือน ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 54.31 ปี มีสถานภาพสมรสแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาอยู่ที่ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวไม่มีลูกจ้าง, อาชีพลูกจ้างเอกชน และอื่น ๆ ในด้านลักษณะทางสังคมขนาดของครัวเรือนเฉลี่ยของผู้ตอบแบบสอบถามอยู่ที่ 2.71 คน มีที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ซึ่งมีจำนวนใกล้เคียงกัน รองลงมาเป็นภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร ตามลำดับ ส่วนใหญ่อาศัยในบ้านเดี่ยว และลักษณะที่อยู่อาศัยเป็นแบบตึก รองลงมาเป็นแบบครึ่งตึกครึ่งไม้ ส่วนสถานภาพการครอบครองที่อยู่อาศัยพบว่าเกือบทั้งหมด เป็นเจ้าของบ้าน โดยมีจำนวนห้องในที่อยู่อาศัยเฉลี่ยที่ 2.88 ห้อง มีไฟฟ้าใช้ในที่อยู่อาศัยทุกครัวเรือน มียานพาหนะที่ใช้พลังงานเฉลี่ย 2.30 คันต่อครัวเรือน รวมถึงมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 22 ชิ้น และในด้านลักษณะทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลจากหน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ และได้รับผลประโยชน์จากโครงการช่วยเหลือของรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เคยกู้ยืมเงินจากกองทุนต่าง ๆ ที่รัฐจัดให้ สำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสื่อสารผู้ตอบแบบสอบถามมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 788.46 บาท และมีค่าเฉลี่ยหนี้สินของครัวเรือนอยู่ที่ 4,760.74 บาท ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 พบว่าปัจจัยที่มีผลต่อค่าใช้จ่ายพลังงานของครัวเรือนในประเทศไทย ได้แก่ เพศ, ระดับการศึกษา, สถานภาพสมรส, อาชีพ, จำนวนสมาชิก, ภาคที่อยู่อาศัย, ประเภทที่อยู่อาศัย, ลักษณะที่อยู่อาศัย, สถานภาพการครอบครองที่อยู่อาศัย, จำนวนห้อง, จำนวนยานพาหนะ, จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า, สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล, การได้รับผลประโยชน์จากโครงการช่วยเหลือของรัฐ, การกู้ยืมเงินจากกองทุนต่าง ๆ ที่รัฐจัดให้, ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสื่อสาร และจำนวนหนี้สินของครัวเรือน ส่วนอายุไม่มีผลต่อค่าใช้จ่ายพลังงานของครัวเรือนในประเทศไทย และผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณเชิงเส้นตรงพบว่ามีตัวแปรอิสระเชิงปริมาณ 6 ตัว ได้แก่ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสื่อสาร, จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน, จำนวนยานพาหนะที่ใช้พลังงานในครัวเรือน, จำนวนหนี้สินของครัวเรือน, จำนวนห้อง และขนาดของครัวเรือน ที่มีส่วนในการอธิบายความผันแปรของค่าใช้จ่ายพลังงานของ โดยมีค่า Adjusted R Square เท่ากับ 0.561

การใช้คอนกรีตรีไซเคิลสำหรับการก่อสร้างในอนาคต

คณะวิศวกรรมศาสตร์

การใช้คอนกรีตรีไซเคิลสำหรับการก่อสร้างในอนาคต

งานวิจัยนี้เสนอแนะการใช้โพลีเมอร์เชือกเสริมเส้นใยธรรมชาติ เพื่อเสริมกำลังเสาคอนกรีตสี่เหลี่ยมรวมรีไซเคิลที่ประกอบด้วยอิฐมวลรวมแข็งจากดินเหนียวเผา เพื่อลดต้นทุนสูงที่เกี่ยวข้องกับโพลีเมอร์เสริมใยสังเคราะห์ ตัวอย่างคอนกรีตจำนวน 24 คอลัมน์เพื่อทำการศึกษาครั้งนี้ ตัวอย่างได้รับการทดสอบภายใต้แรงอัดตามแนวแกนแบบโมโนโทนิก ตัวแปรที่น่าสนใจคือ กำลังของคอนกรีตไม่จำกัดจำนวน และจำนวนชั้น FRR จากผลการทดสอบ ชิ้นงานที่ได้รับการปรับปรุงให้แข็งแกร่งขึ้นแสดงให้เห็นถึงกำลังรับแรงอัดและความเหนียวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชิ้นงานที่มีความแข็งแรงไม่จำกัดน้อยที่สุดแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงที่ใหญ่ที่สุดในด้านกำลังรับแรงอัดและความเหนียว โดยเฉพาะกำลังรับแรงอัดและความเครียดเพิ่มขึ้นถึง 181% และ 564% ตามลำดับ เพื่อที่จะคาดการณ์ความเครียดและความเครียดจากแรงอัดที่จำกัดขั้นสุดท้าย การศึกษานี้จึงได้ตรวจสอบแบบจำลองความเครียด-ความเครียดเชิงวิเคราะห์จำนวนหนึ่ง การเปรียบเทียบผลการทดลองและทางทฤษฎีสรุปได้ว่าแบบจำลองความแข็งแกร่งเพียงจำนวนจำกัดเท่านั้นที่ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์อย่างใกล้ชิด ในขณะที่มีการสังเกตการกระจายที่ใหญ่กว่าสำหรับการทำนายความเครียด การเรียนรู้ของเครื่องถูกนำมาใช้โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมเพื่อทำนายกำลังรับแรงอัด ชุดข้อมูลที่ประกอบด้วย 142 ตัวอย่างเสริมความแข็งแกร่งด้วยกัญชา FRP ถูกดึงออกมาจากวรรณกรรม โครงข่ายประสาทเทียมได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับชุดข้อมูลที่แยกออกมา และประสิทธิภาพของมันได้รับการประเมินสำหรับผลการทดลองของการศึกษานี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงข้อตกลงที่ใกล้ชิด