KMITL Innovation Expo 2025 Logo

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ซินไบโอติกเตปาเช่เพื่อสุขภาพ

รายละเอียด

เตปาเช่เป็นเครื่องดื่มที่มีต้นกำเนิดจากเม็กซิโก ที่นิยมใช้เปลือกสับปะรดที่มีน้ำตาลธรรมชาติและเอนไซม์โบรมีเลนในการผลิต จึงทำให้เตปาเช่มีกลิ่นหอมและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ โครงงานนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนากระบวนการผลิตเครื่องดื่มเตปาเช่เพื่อสุขภาพ โดยหมักเปลือกสับปะรดด้วยยีสต์และแบคทีเรียกรดแลคติกที่มีคุณสมบัติเป็นโพรไบโอติก ร่วมกับการใช้พรีไบโอติกที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์โพรไบโอติก ได้แก่ อินูลิน และ ไซโลโอลิโกเซคคาไรด์ ทำให้ได้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มซินไบโอติกเตปาเช่ที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ลำไส้ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมภูมิต้านทานให้กับผู้บริโภค

วัตถุประสงค์

เตปาเช่ (Tepache) เป็นเครื่องดื่มพื้นเมืองของเม็กซิโกที่ทำจากเปลือกสับปะรดร่วมกับน้ำตาลหรือเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพื่อกระตุ้นการหมักซึ่งมักได้จากยีสต์และแบคทีเรียที่เกิดตามธรรมชาติในสับปะรด เตปาเช่ได้รับความนิยมมากในภูมิภาคละตินอเมริกาเพราะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวานที่สดชื่น และเป็นที่รู้จักในฐานะเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากมีจุลินทรีย์ที่ส่งเสริมการย่อยอาหารคล้ายกับเครื่องดื่มประเภทโพรไบโอติกการนำเปลือกสับปะรด ซึ่งถือเป็นขยะอาหาร (food waste) มาใช้ในการผลิตเตปาเช่ มีความสำคัญอย่างมากในแง่ของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเปลือกสับปะรดมีส่วนประกอบถึง 40% ของผลสับปะรด ซึ่งมักถูกทิ้งในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร การใช้เปลือกสับปะรดในกระบวนการหมักไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าให้กับของเสียทางการเกษตรนี้เท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยลดของเสียและสร้างเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ​ ปัจจุบันเตปาเช่ได้รับความสนใจจากการเป็นเครื่องดื่มที่ทำจากกระบวนการหมักแบบธรรมชาติ ซึ่งไม่เพียงแค่ให้ความสดชื่น แต่ยังมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารและสุขภาพลำไส้ เนื่องจากมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ เช่น แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) และยีสต์ การบริโภคเตปาเช่จึงถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการส่งเสริมสุขภาพโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่สนใจโพรไบโอติกจากแหล่งธรรมชาติ การศึกษาวิธีการผลิตและคุณภาพของเตปาเช่จึงมีความสำคัญ เพราะสามารถช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้ ทั้งในแง่ของการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร เช่น สับปะรดที่เหลือจากกระบวนการผลิตอื่น ๆ ​อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเตปาเช่ยังมีอย่างจำกัดทั้งทางด้านจุลชีววิทยา และกรรมวิธีการผลิตให้มีคุณภาพ จึงเป็นเรื่องท้าทายในการทำให้ผลิตภัณฑ์มีรสชาติและคุณภาพที่คงที่ นอกจากนี้การหมักแบบธรรมชาติมีปัจจัยหลากหลายที่ส่งผลต่อคุณภาพเครื่องดื่ม ทั้งอุณหภูมิ เวลา ความเข้มข้นของน้ำตาล และชนิดของจุลินทรีย์ที่ใช้ในการหมัก การศึกษาและพัฒนาวิธีการผลิตที่ควบคุมคุณภาพได้จึงเป็นที่ต้องการ ​ ดังนั้น การวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตเตปาเช่ที่สามารถควบคุมคุณภาพได้ทั้งทางกายภาพ เคมี และประสาทสัมผัส รวมถึงการใช้จุลินทรีย์โพรไบโอติกที่มีประโยชน์ในการผลิตจึงมีความสำคัญ ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร เช่น การใช้สับปะรดที่เหลือจากการแปรรูปอื่น ๆ เพื่อพัฒนาเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

นวัตกรรมอื่น ๆ

การพัฒนาฟิล์มรับประทานได้ที่บรรจุสารสกัดสมอไทยเพื่อป้องกันแผลในช่องปาก

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

การพัฒนาฟิล์มรับประทานได้ที่บรรจุสารสกัดสมอไทยเพื่อป้องกันแผลในช่องปาก

การศึกษานี้มุ่งเน้นการพัฒนาฟิล์มรับประทานได้ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากสมอไทย (Terminalia chebula Retz) เพื่อใช้ในการรักษาแผลในช่องปาก ฟิล์มชนิดนี้ถูกออกแบบให้ละลายได้ในช่องปากโดยไม่ต้องกลืนหรือเคี้ยว ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลร้อนในหรืออาการอักเสบในช่องปาก สารสกัดจากสมอไทยมีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาหลายประการ เช่น ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และฤทธิ์ต้านการอักเสบ

การสกัดพรีไบโอติกจากกากกาแฟ

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

การสกัดพรีไบโอติกจากกากกาแฟ

กากกาแฟเป็นวัสดุเหลือใช้ที่เกิดจากกระบวนการชงกาแฟ ซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความนิยมในการบริโภคกาแฟทั่วโลก ภายในกากกาแฟมีสารที่เป็นประโยชน์ เช่น โพลีแซ็กคาไรด์ เส้นใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการสกัดพรีไบโอติก งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการสกัดสารพรีไบโอติกจากกากกาแฟโดยใช้วิธีการไฮโดรไลซิสด้วยกรดและการย่อยสลายทางเอนไซม์ เพื่อนำสารที่ได้มาประเมินศักยภาพในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร ผลการวิจัยคาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับของเหลือจากอุตสาหกรรมกาแฟ ลดปริมาณขยะอินทรีย์ และเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์พรีไบโอติกที่สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและสุขภาพ ทั้งนี้ การศึกษานี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การศึกษากระบวนการผลิตและการเก็บรักษาอายุผลิตภัณฑ์ เค้กเนื้อปูจากพืชในสภาวะแช่เย็น (ระดับห้องปฏิบัติการ)

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

การศึกษากระบวนการผลิตและการเก็บรักษาอายุผลิตภัณฑ์ เค้กเนื้อปูจากพืชในสภาวะแช่เย็น (ระดับห้องปฏิบัติการ)

Plant-based หมายถึง อาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพืชเป็นหลัก สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่อาหารจากพืชทั้งหมดที่ไม่มีการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลย และอาหารที่มีส่วนผสมจากสัตว์ปริมาณน้อย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีนมและไข่ในปริมาณน้อยก็อาจจะถูกเป็นพิจารณาอยู่ในความหมายของ Plant-based ด้วยเช่นกัน ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืชที่มีความเหมือนจริงสูงและดึงดูดผู้บริโภคนับเป็นนวัตกรรมที่ค่อนข้างใหม่ แม้ว่า เต้าหู้ เทมเปห์ และเซตัน จะมีมานานแล้ว ในปัจจุบันเพิ่งมีการค้นพบและเริ่มผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืชที่ให้ลักษณะประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่ผู้บริโภคแยกความแตกต่างระหว่างเนื้อสัตว์และเนื้อสัตว์จากพืชได้ยาก ทั้งนี้การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชต้องคำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค Textured Vegetable Protein (TVP) คือ โปรตีนเกษตรที่ผลิตจากถั่วเหลืองผ่านการใช้เครื่องเอ็กซ์ทรูดเดอร์ (Extruder) ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ เช่น โปรตีนสูงเพราะทำมาจากถั่วเหลืองที่ผ่านการสกัดไขมันออก, เนื้อสัมผัสของ TVP เมื่อผ่านการผสมน้ำจะมีเนื้อสัมผัสที่คล้ายเนื้อสัตว์, ความหลากหลาย TVP มีรสชาติที่เป็นกลาง จึงสามารถดูดซับรสชาติจากเครื่องปรุงและซอสต่างๆ ได้ง่าย, และเมื่อเทียบกับแหล่งโปรตีนชนิดอื่นๆ TVP มีต้นทุนราคาประหยัดที่ให้คุณลักษณะที่ดี การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การนำ TVP มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เค้กเนื้อปูจากพืช (Plant-based Crab Cake) และทำการศึกษาอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ในภาชนะบรรจุปิดสนิทที่สภาวะแช่เย็น จากนั้นวิเคราะห์ด้านสุขอนามัยและความสะอาดของกระบวนการผลิตว่ามีผลต่อการมีอยู่หรือเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างไร โดยอ้างอิงข้อกำหนดอาหารแช่เย็นของประเทศไทย สุดท้ายจัดทำข้อแนะนำในเรื่องของการทำความสะอาดพื้นที่ปฏิบัติการให้แก่สถานประกอบการเป็นแนวทางการจัดทำข้อมูลขั้นตอนปฏิบัติความปลอดภัยอาหารในห้องปฏิบัติการเบื้องต้น