ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการถกเถียงกันมากว่า AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในหลายอุตสาหกรรม แต่ในภาคความบันเทิงและศาสตร์แห่งการพยากรณ์ ดูเหมือนว่า AI จะยังไม่สามารถทดแทนประสบการณ์แบบดั้งเดิมได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงท้าทายขีดจำกัดของ AI ด้วยการพัฒนา โหรา(ย): โมเดลภาษาขนาดใหญ่และอวาตาร์ 3 มิติในการพยากรณ์อนาคตด้วยไพ่ทาโรต์ ที่เชื่อมโยงศาสตร์การทำนายไพ่ทาโรต์แบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โครงการนี้ใช้เทคนิคการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ร่วมกับระบบเสียงพูดเป็นข้อความ (Speech-to-Text: STT) และข้อความเป็นเสียง (Text-to-Speech: TTS) เพื่อสร้างประสบการณ์การพยากรณ์ที่สมจริงและมีความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรม รองรับทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ผู้ใช้สามารถป้อนคำถามผ่านเสียง ระบบจะประมวลผลผ่าน STT และ AI จะตอบกลับด้วยคำพยากรณ์ผ่าน TTS พร้อมกับ อวาตาร์ 3 มิติของหมอดู ที่แสดงท่าทางเสมือนจริง แพลตฟอร์มนี้จะถูกพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย ทำให้ศาสตร์การพยากรณ์เข้าถึงได้มากขึ้น พร้อมทั้งผสมผสานเทคโนโลยีและวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้การพยากรณ์ไพ่ทาโรต์เป็นทั้งประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ทันสมัย และน่าดึงดูดสำหรับผู้ใช้ในยุคปัจจุบัน
ในปัจจุบัน AI Chatbots และ LLM ถูกนำมาใช้ในหลายธุรกิจ รวมถึงการให้คำแนะนำและการพยากรณ์ อย่างไรก็ตาม ในตลาดการพยากรณ์ออนไลน์ยังไม่มีระบบ AI ที่สามารถให้บริการพยากรณ์ไพ่ทาโรต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับนักพยากรณ์จริง จากการสังเกตพฤติกรรมของผู้ใช้สื่อโซเชียลในไทย พบว่ามีผู้ใช้จำนวนมากที่นิยมใช้ ChatGPT และ AI อื่น ๆ เพื่อขอคำพยากรณ์เกี่ยวกับอนาคตของตนเอง ซึ่งบ่งบอกถึงความสนใจในบริการลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแพลตฟอร์มที่พัฒนาเพื่อจุดประสงค์ในการดูดวงโดยเฉพาะ ดังนั้น โครงการนี้จึงมีเป้าหมายในการพัฒนา AI ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างสมจริง โดยใช้โมเดลภาษาและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
คณะศิลปศาสตร์
นิยมไทย ขอนำเสนอรองเท้าเพื่อสุขภาพลวดลายไทยกับแนวคิดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมให้มีความยั่งยืน ร่วมสมัยแก่คนในท้องถิ่น ตัวรองเท้ามาพร้อมวัสดุธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย และผสานเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย อาทิเช่น การระบุพิกัดผ่านแอพพลิเคชั่นและสามารถจับชีพจรได้ ตอบโจทย์ให้กับการท่องเที่ยวและการดูแลสุขภาพที่สะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
คณะวิทยาศาสตร์
ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนังมีจำนวนมากเป็นอันดับที่สอง ในจำนวนผู้ป่วยโรคผิวหนัง ซึ่งโรคภูมิแพ้ผิวหนังนี้ยังไม่มียารักษา ทำได้แค่บรรเทารักษาตามอาการ ทำให้เกิดเป็นโรคเรื้อรัง มีโอกาสที่เชื้อฉวยโอกาสจะเข้าไปก่อโรคเพิ่มจากแผลของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อชนิดอื่น การศึกษาในครั้งนี้จึงสนใจศึกษาการลดโอกาสในการติดเชื้อฉวยโอกาสในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนัง โดยใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งสนใจใบพลูคาวและดีปลี เนื่องจากมีข้อมูลสนับสนุนเรื่องการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ โดยการนำใบของพืชทั้ง 2 ชนิด มาสกัดแบบหยาบ แช่ใน ethanol 95% เป็นเวลา 7 วัน กรองด้วยกรวยกรอง buchner นำสารสกัดที่ได้ไปทดสอบ phytochemical เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบ phenolic, flavonoid, tannin, anthocyanin, DPPH และนำไปทดสอบฤทธิ์ในการต้านจุลชีพ ซึ่งในการทดลองประกอบด้วยแบบคทีเรียแกรมบวกและแกรมลบ 5 ชนิด ได้แก่ E. coli, Bacillus subtilis, Pseudomonas aeruginosa, Staphylococcus aureus, Staphylococcus epidermidis โดยผู้ทำการวิจัยคาดว่าจะสามารถนำไปต่อยอดและนำไปพัฒนาในการรักษาผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้
คณะวิทยาศาสตร์
งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาการผลิตน้ำมันไพโรไลซิสจากขยะพลาสติกฝังกลบที่ผ่านการคัดแยกจากหลุมฝังกลบขยะมูลฝอยอายุ 15 ปี จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี เพื่อนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงทดแทนด้วยเตาปฏิกรณ์แบบเบดนิ่ง (Fixed-Bed Reactor) ที่อุณหภูมิ 450 องศาเซลเซียส ระยะเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นเชื้อเพลิงในการให้ความร้อน มีการออกแบบการทดลองออกเป็น 4 สภาวะ คือ ตัวอย่างขยะพลาสติกฝังกลบที่ยังไม่ผ่านการล้างแต่ทำการตัดลดขนาด ตัวอย่างขยะพลาสติกฝังกลบที่ผ่านการล้างและตัดลดขนาด ตัวอย่างขยะพลาสติกฝังกลบที่ยังไม่ผ่านการล้างและตัดลดขนาด และตัวอย่างขยะพลาสติกฝังกลบยังไม่ผ่านการล้างแต่ทำการตัดลดขนาด และใช้ถ่านกัมมันต์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา พบว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้มีทั้งหมด 3 ประเภท คือ น้ำมัน (Py-oil) ถ่าน (Char) และก๊าซ (Gas) ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบลักษณะและคุณภาพของน้ำมันไพโรไลซิสจากขยะพลาสติกฝังกลบ ได้แก่ ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ค่าความร้อน (Heating Value) ค่าความชื้น (Moisture content) เถ้า (Ash) และหมู่ฟังก์ชั่น (Functional group) รวมไปถึงองค์ประกอบทางเคมี โดยใช้การอ้างอิงมาตรฐานน้ำมันเตาตามประกาศกรมธุรกิจพลังงานเป็นเกณฑ์ ผลการวิเคราะห์ ที่ได้จึงสามารถอธิบายได้ว่าน้ำมันจากการไพโรไลซิสขยะพลาสติกฝังกลบในสภาวะใดที่มีความเหมาะสมและมีความคุ้มค่ากับการนำมาผลิตเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเตาที่มีการใช้ในภาคอุตสาหกรรมได้ งานวิจัยนี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางเลือกที่ช่วยในการจัดการขยะพลาสติกในบ่อฝังกลบให้มีปริมาณลดน้อยลง โดยเปลี่ยนขยะมูลฝอยให้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง