KMITL Innovation Expo 2025 Logo

กาแฟคุณภาพออกแบบได้จากการหมัก

กาแฟคุณภาพออกแบบได้จากการหมัก

รายละเอียด

กาแฟเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญสำหรับใช้ในการผลิตเครื่องดื่มระดับพรีเมียมเพื่อให้บริการผู้คนทั่วโลก ไมโครไบโอมของกาแฟกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพเมล็ดกาแฟผ่านการหมักตามธรรมชาติ ดังนั้นการทำความเข้าใจความหลากหลายของจุลินทรีย์จึงสามารถสร้างคุณภาพที่ดีขึ้นของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายได้ การศึกษานี้ศึกษากลุ่มจุลินทรีย์ธรรมชาติในระหว่างการหมักกาแฟแบบเปียกในประเทศไทยเพื่อศึกษาลักษณะเฉพาะของจุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ต่อลักษณะทางชีวเคมีและคุณลักษณะทางเมแทบอลิซึม การคั่วถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนารสชาติ/กลิ่นที่ซับซ้อน เพื่อทำให้กาแฟน่ารับประทาน ในระหว่างกระบวนการคั่ว ถั่วจะมีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางเคมีกายภาพที่ซับซ้อนหลายอย่างจากสารที่ได้รับในกระบวนการหมัก การเปลี่ยนแปลงการก่อตัวของสารที่รับผิดชอบต่อคุณภาพทางประสาทสัมผัส คุณสมบัติทางเคมีกายภาพ/กลิ่น ตลอดจนประโยชน์ต่อสุขภาพของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย การใช้จุลินทรีย์เฉพาะเริ่มต้นสามารถพัฒนาคุณลักษณะที่โดดเด่นของกาแฟได้ (ทำร่วมกับบริษัท Van Hart)

วัตถุประสงค์

-

นวัตกรรมอื่น ๆ

Rice Flour/Starch Modification for Health and Sustainable Food Industry: Ultilization of Starch-Polyphenols Complex Mechanism

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

Rice Flour/Starch Modification for Health and Sustainable Food Industry: Ultilization of Starch-Polyphenols Complex Mechanism

Most rice is consumed as cooked, milled rice, but a small portion is also ground into flour or separated into a starch fraction and used by the food industry as a gluten-free ingredient. This study aims to find out if different types of rice flour and starch, such as white and colored rice, could be used in industry. This study employs green modification techniques to slow down the digestion process by combining polyphenols with starch. Our initial study found that the raw colored rice has a lower glycemic index than other types of rice, such as brown or white rice. Another study that looked at how the quality of colored rice flour was changed by different methods also discovered that out of the six green methods (annealing, heat moisture treatment, ultrasound, pregelatinization, wet-microwave, and dry-microwave). It found that ultrasound improved the polyphenol bioaccessibility in the rice flour and reduced the digestion rate. The pregelatinization process led to the flour having high solubility and an estimated glycemic index. Different techniques affected the flour/starch quality in different ways. Therefore, for further industrial application, it could also be easier to select the method for food product based on their required techno-functional quality of flour/starch. In addition to the modification techniques, this study showed that the high bioaccessible polyphenol content and high polyphenol content in rice greatly slowed down the rate of digestion. This study also open for further exploring the possibility of using high polyphenol agricultural waste to modify starch and flour in a sustainable manner.

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ซินไบโอติกเตปาเช่เพื่อสุขภาพ

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ซินไบโอติกเตปาเช่เพื่อสุขภาพ

เตปาเช่เป็นเครื่องดื่มที่มีต้นกำเนิดจากเม็กซิโก ที่นิยมใช้เปลือกสับปะรดที่มีน้ำตาลธรรมชาติและเอนไซม์โบรมีเลนในการผลิต จึงทำให้เตปาเช่มีกลิ่นหอมและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ โครงงานนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนากระบวนการผลิตเครื่องดื่มเตปาเช่เพื่อสุขภาพ โดยหมักเปลือกสับปะรดด้วยยีสต์และแบคทีเรียกรดแลคติกที่มีคุณสมบัติเป็นโพรไบโอติก ร่วมกับการใช้พรีไบโอติกที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์โพรไบโอติก ได้แก่ อินูลิน และ ไซโลโอลิโกเซคคาไรด์ ทำให้ได้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มซินไบโอติกเตปาเช่ที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ลำไส้ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมภูมิต้านทานให้กับผู้บริโภค

การปรับปรุงคุณภาพน้ำผิวดินด้วยวิธีการตกตะกอนโดยสารสกัดเมล็ดมะรุม เมล็ดกระเจี๊ยบแดง และเมล็ดมะขาม

คณะวิทยาศาสตร์

การปรับปรุงคุณภาพน้ำผิวดินด้วยวิธีการตกตะกอนโดยสารสกัดเมล็ดมะรุม เมล็ดกระเจี๊ยบแดง และเมล็ดมะขาม

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดจากเมล็ดมะรุม เมล็ดกระเจี๊ยบแดง และเมล็ดมะขาม ในการเป็นสารช่วยตกตะกอนในแหล่งน้ำผิวดินเพื่อการปรับปรุงคุณภาพน้ำ สารสกัดจากเมล็ดมะรุม เมล็ดกระเจี๊ยบแดง และเมล็ดมะขาม เป็นสารตกตะกอนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นทางเลือกในการปรับปรุงคุณภาพของน้ำผิวดิน แหล่งน้ำผิวดินมีความขุ่นอยู่ในช่วง 14-24 NTU นำมาทำการตกตะกอนความขุ่นในน้ำด้วยวิธีการทดลองจาร์เทส (Jar test) โดยการใช้สารสกัดจากเมล็ดมะรุม เมล็ดกระเจี๊ยบแดง และเมล็ดมะขาม เป็นสารตกตะกอน (Coagulant) และ เป็นสารช่วยตกตะกอน (Coagulant aid) โดยวิธีการคือนำเมล็ดมะรุม เมล็ดกระเจี๊ยบแดง และเมล็ดมะขามมาบดให้ละเอียด จากนั้นสกัดด้วยสารละลายโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) 0.5 โมลาร์ และนำสารสกัดที่ได้มาใช้เป็นสารตกตะกอนเพื่อลดความขุ่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำ โดยแต่ละความเข้มข้นใช้ปริมาตรน้ำ 300 มิลลิลิตร ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าสารสกัดจากเมล็ดมะรุมที่ความเข้มข้น 2,000 มิลลิกรัมต่อลิตร มีประสิทธิภาพมากที่สุด และมีประสิทธิภาพในการลดความขุ่นประมาณ 73.19% โดยมีค่าใช้จ่าย 0.0309 บาทต่อน้ำ 300 มิลลิตร รองลงมาเป็นสารสกัดจากเมล็ดมะขามที่มีความเข้มข้น 4000 มิลลิกรัมต่อลิตร มีประสิทธิภาพในการลดความขุ่นประมาณ 56.75% โดยมีค่าใช้จ่าย 0.0933 บาทต่อน้ำ 300 มิลลิตร และเมล็ดกระเจี๊ยบแดงที่มีความเข้มข้น 6000 มิลลิกรัมต่อลิตร มีประสิทธิภาพในการลดความขุ่นประมาณ 32.67% โดยมีค่าใช้จ่าย 0.0567 บาทต่อน้ำ 300 มิลลิตร