งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครื่องคัดแยกเฉดสีของพลอยแบบอัตโนมัติ เพื่อลดข้อจำกัดของการคัดแยกเฉดสีโดยอาศัยแรงงานมนุษย์ ซึ่งมีข้อจำกัดในด้านความรวดเร็วและความแม่นยำ งานวิจัยนี้นำเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) มาใช้ในการวิเคราะห์และแยกเฉดสีของพลอย โดยพัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถตรวจจับและจำแนกเฉดสีได้อย่างแม่นยำ พร้อมด้วยการออกแบบระบบรางอัตโนมัติเพื่อขนส่งพลอยผ่านเครื่องคัดแยกเฉดสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบรางดังกล่าวช่วยให้กระบวนการคัดแยกดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง วิธีการทำงานของเครื่องคัดแยกประกอบด้วยการจับภาพสีของพลอยด้วยกล้องความละเอียดสูง จากนั้นประมวลผลภาพด้วยโปรแกรม เพื่อจำแนกเฉดสีของพลอย และส่งพลอยไปยังตำแหน่งที่กำหนดบนรางอัตโนมัติ ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า เครื่องคัดแยกเฉดสีอัตโนมัติที่รวมระบบรางมีความแม่นยำและรวดเร็วสูง สามารถช่วยลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกเฉดสีของพลอยได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบันการตรวจสอบเฉดสีของพลอยถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการประเมินคุณภาพ ทั้งในกระบวนการผลิตและการค้าขาย อย่างไรก็ตามการตรวจสอบเฉดสีที่ดำเนินการโดยมนุษย์นั้นมีข้อจำกัดหลายประการ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องความสามารถในการแยกเฉดสีที่ซับซ้อน ซึ่งอาจทำให้การตรวจสอบใช้เวลานาน และมีความแม่นยำต่ำ จากปัญหาดังกล่าว จึงได้พัฒนาแนวคิดในการสร้างเครื่องคัดแยกเฉดสีพลอยอัตโนมัติ โดยใช้ระบบ Computer Vision ร่วมกับระบบอัตโนมัติในการวิเคราะห์เฉดสีของพลอย เพื่อลดข้อจำกัดของการตรวจสอบด้วยมนุษย์ เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงทำให้กระบวนการตรวจสอบเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีมาตรฐานของเฉดสี GIA (Gemological Institute of America)
คณะเทคโนโลยีการเกษตร
นวัตกรรมชุดการเลี้ยงหอยหวานทองในแนวตั้งด้วยระบบอควาโปนิกส์เป็นรูปแบบของการเกษตรแบบผสมผสานระหว่างการเลี้ยงหอยหวานทองกับการปลูกผัก โดยระบบดังกล่าวโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้พื้นที่ในแนวดิ่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประหยัดน้ำในการเลี้ยงและผลิตพืชผักที่ปลอดภัยทั้งเพื่อการบริโภคหรือจำหน่าย รวมทั้งเป็นการเกื้อกูลระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบ ซึ่งหอยหวานทองจะขับถ่ายของเสียออกมา/เศษอาหารที่หลงเหลือจะถูกกรองบนวัสดุ ที่ใช้ในการบำบัดน้ำ ในขณะเดียวกันแบคทีเรียตามธรรมชาติจะช่วยเปลี่ยนของเสียต่างๆ เหล่านี้ให้อยู่ในรูปธาตุอาหารที่พืชนำมาใช้ประโยชน์ ดังนั้นระบบดังกล่าวจึงเป็นมิตรต่อต่อสิ่งแวดล้อม
คณะวิทยาศาสตร์
ผลิตผล และผลพลอยได้ทางการเกษตร จัดเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมความงาม อุตสาหกรรมยา เส้นใยจากพืชจากการเกษตรมีองค์ประกอบ คุณสมบัติ และโครงสร้างที่เหมาะกับการนำไปใช้งานเป็นวัสดุผสมในอุตสาหกรรมเสริมความงาม ด้วยเทคโนโลยีการย่อยภายใต้คลื่นไมโครเวฟสามารถลดขนาดของเซลลูโลสเพื่อให้ได้นาโนเซลลูโลส (Cellulose Nanocrystals) ที่มีขนาดความยาว 50-1000 นาโนเมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 5-70 นาโนเมตร นาโนเซลลูโลสถูกนำมายึดติดบนสารสารสำคัญทางความงามเช่น กลีเซอรีน (Glycerin), กรดไฮยาลูรอนิก (Sodium Hyaluronate), กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือแม้แต่วิตตามิน เช่น นิโคตินาไมด์ (Nicotinamide) หรือ วิตามินบี 3 ระบบนำส่งสารสำคัญทางความงามเหล่านี้ที่ยึดติดบนนาโนเซลลูโลสเหล่านี้ สามารถแทรกซึมผ่านผิวหนังเพื่อกระตุ้นความงาม และความอ่อนเยาว์ได้ดียิ่งขึ้น
วิทยาลัยการจัดการนวัตกรรมและอุตสาหกรรม
งานวิจัยนี้นำเสนอการพัฒนาเส้นใยนาโนคาร์บอนที่มีโครงสร้างหลายเฟสผสมออกไซด์ของโลหะ (CNF@MOx; M = Ag, Mn, Bi, Fe) โดยฝังอนุภาคนาโนของเงิน แมงกานีส บิสมัท และเหล็ก ลงในเส้นใยนาโนคาร์บอนที่ได้จากพอลิอะคริโลไนไตรล์ (PAN) ผ่านเทคนิคอิเล็กโทรสปินนิ่งและผ่านการอบชุบในบรรยากาศอาร์กอน ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าเส้นใยนาโนที่ได้มีโครงสร้างที่เป็นระเบียบ เส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย 559-830 นาโนเมตร และมีอนุภาคนาโนฝังตัวขนาด 9-21 นาโนเมตร การวิเคราะห์เชิงโครงสร้างยืนยันการมีอยู่ของสถานะออกซิเดชันต่างๆ ของโลหะออกไซด์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกลไกการเก็บประจุไฟฟ้า ผลการทดสอบทางไฟฟ้าเคมีพบว่า CNF@Ag/Mn/Bi/Fe-20 มีค่าความจุจำเพาะสูงสุดที่ 156 F g⁻¹ ที่อัตราการสแกน 2 mV s⁻¹ และมีเสถียรภาพสูง โดยยังคงค่าความจุได้มากกว่า 96% หลังจากการชาร์จ-คายประจุ 1400 รอบ กลไกการเก็บประจุของเส้นใยนี้เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างความสามารถในการเก็บประจุแบบชั้นคู่ไฟฟ้าและกระบวนการรีดอกซ์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวัสดุอิเล็กโทรดสำหรับตัวเก็บประจุยิ่งยวด