ผลิตผล และผลพลอยได้ทางการเกษตร จัดเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมความงาม อุตสาหกรรมยา เส้นใยจากพืชจากการเกษตรมีองค์ประกอบ คุณสมบัติ และโครงสร้างที่เหมาะกับการนำไปใช้งานเป็นวัสดุผสมในอุตสาหกรรมเสริมความงาม ด้วยเทคโนโลยีการย่อยภายใต้คลื่นไมโครเวฟสามารถลดขนาดของเซลลูโลสเพื่อให้ได้นาโนเซลลูโลส (Cellulose Nanocrystals) ที่มีขนาดความยาว 50-1000 นาโนเมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 5-70 นาโนเมตร นาโนเซลลูโลสถูกนำมายึดติดบนสารสารสำคัญทางความงามเช่น กลีเซอรีน (Glycerin), กรดไฮยาลูรอนิก (Sodium Hyaluronate), กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือแม้แต่วิตตามิน เช่น นิโคตินาไมด์ (Nicotinamide) หรือ วิตามินบี 3 ระบบนำส่งสารสำคัญทางความงามเหล่านี้ที่ยึดติดบนนาโนเซลลูโลสเหล่านี้ สามารถแทรกซึมผ่านผิวหนังเพื่อกระตุ้นความงาม และความอ่อนเยาว์ได้ดียิ่งขึ้น
ประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตผลิตผลทางการเกษตร และประเทศไทยได้รับการขนานนามว่าเป็น “ครัวของโลก” (Kitchen of the World) เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ ผลผลิตที่มากมายย่อมก่อให้เกิดผลพลอยได้ทางการเกษตรที่ตามมา เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของผลพลอยได้ทางการเกษตร งามวิจัยมุ่งเห็นถึงประโยชน์ของนาโนเซลลูโลส ที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของพืช นาโนเซลลูโลส มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี ทำให้เส้นใยนาโนเซลลูโลสมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้สูงกว่าน้ำหนักในขณะที่ไม่เปียกน้ำ ถึง 100 เท่า และมีความแข็งแกร่ง ยืดหยุ่นสูง อีกทั้งยังเป็นสารปลอดพิษที่ปราศจากเชื้อ และมีความบริสุทธิ์สูง การนำนาโนเซลลูโลสมายึดตึดด้วยสารสำคัญทางความงาม เช่นกลีเซอรีน (Glycerin), กรดไฮยาลูรอนิก (Sodium Hyaluronate), กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือแม้แต่วิตตามิน เช่น นิโคตินาไมด์ (Nicotinamide) หรือ วิตามินบี 3 ย่อมส่งผลดีต่อการนำส่งสารความงามลงสู่ใบหน้า งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นสังเคราะห์นาโนเซลลูโลส จากผลิตผล และผลพลอยได้ทางการเกษตร โดยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงไมโครเวฟในการย่อย และต่อกิ่งสารสำคัญทางความงาม เช่นกลีเซอรีน (Glycerin), กรดไฮยาลูรอนิก (Sodium Hyaluronate), กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือแม้แต่วิตตามิน เช่น นิโคตินาไมด์ (Nicotinamide) หรือ วิตามินบี 3 ลงบนนาโนเซลลูโลส เพื่อมุ่งหวังใช้เป็นสารเสริมความงามต่อไป
วิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต
โครงงานชิ้นนี้เป็นการศึกษาการออกแบบพื้นที่เก็บเสียงแบบพกพาได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถฝึกซ้อมการใช้เสียงได้โดยไม่รบกวนพื้นที่รอบข้าง
คณะวิศวกรรมศาสตร์
การศึกษานี้มุ่งเน้นการใช้ผงกระเบื้องเซรามิกเป็นวัสดุทดแทนซีเมนต์ในคอนกรีตในอัตราส่วนที่เหมาะสม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาคุณสมบัติในการนำผงกระเบื้องมาทดแทนปริมาณซีเมนต์ และหาอัตราส่วนผสมที่เหมาะสมของผงกระเบื้องในซีเมนต์มอร์ตาร์ ที่สามารถให้สมบัติเทียบเท่าหรือดีกว่าซีเมนต์มอร์-ตาร์ปกติ ในการทดลองได้ดำเนินการโดยการเตรียมตัวอย่างซีเมนต์มอร์ตาร์ที่มีการทดแทนซีเมนต์ด้วยผงกระเบื้องเซรามิก 2 ประเภทที่เป็นขยะจากโรงงานผลิตกระเบื้องเซรามิก ได้แก่ ผงกระเบื้องร่องน้ำ และผงกระเบื้องขัด แบ่งส่วนการผสม 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 ใช้สัดส่วนซีเมนต์ผสมผงกระเบื้อง ส่วนที่ 2 จะพิจารณาจากผลวิเคราะห์กำลังการรับแรงส่วนที่ 1 เพื่อพิจารณาในการเพิ่มหรือลดสัดส่วน และทำการทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น ความถ่วงจำเพาะ ความข้นเหลวปกติ ระยะเวลาการก่อตัว กำลังรับแรงดึง และกำลังรับแรงอัด จากผลการศึกษาพบว่าการแทนที่ซีเมนต์ด้วยผงกระเบื้องขัด สามารถรับแรงดึงและแรงอัดได้มากที่สุดเทียบเท่ากับกำลังการรับแรงดึงและแรงอัดของซีเมนต์มอร์ตาร์ปกติ ดังนั้น การใช้ผงกระเบื้องเซรามิกสามารถเพิ่มความสามารถการรับแรงอัดได้ในสัดส่วนการแทนที่ และยังเป็นการช่วยลดการใช้ซีเมนต์ ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตซีเมนต์ อีกทั้งเป็นแนวทางในการใช้วัสดุเหลือใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังส่งเสริมความยั่งยืนในด้านอุตสาหกรรมก่อสร้าง
คณะวิทยาศาสตร์
การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบ LoRa ในการเกษตร