นวัตกรรมชุดการเลี้ยงหอยหวานทองในแนวตั้งด้วยระบบอควาโปนิกส์เป็นรูปแบบของการเกษตรแบบผสมผสานระหว่างการเลี้ยงหอยหวานทองกับการปลูกผัก โดยระบบดังกล่าวโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้พื้นที่ในแนวดิ่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประหยัดน้ำในการเลี้ยงและผลิตพืชผักที่ปลอดภัยทั้งเพื่อการบริโภคหรือจำหน่าย รวมทั้งเป็นการเกื้อกูลระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบ ซึ่งหอยหวานทองจะขับถ่ายของเสียออกมา/เศษอาหารที่หลงเหลือจะถูกกรองบนวัสดุ ที่ใช้ในการบำบัดน้ำ ในขณะเดียวกันแบคทีเรียตามธรรมชาติจะช่วยเปลี่ยนของเสียต่างๆ เหล่านี้ให้อยู่ในรูปธาตุอาหารที่พืชนำมาใช้ประโยชน์ ดังนั้นระบบดังกล่าวจึงเป็นมิตรต่อต่อสิ่งแวดล้อม
นวัตกรรมชุดการเลี้ยงหอยหวานทองในแนวตั้งด้วยระบบอควาโปนิกส์ได้พัฒนาต่อเนื่องจากระบบปิดแบบผสมผสานในแนวดิ่ง (Vertical Integrated Closed System :VICS)” หรือ VICS เป็นแบบจำลองของการเกษตรแบบผสมผสานระหว่างการเลี้ยงปลาร่วมกับการเลี้ยงการปลูกพืช ซึ่งเป็นการนวัตกรรมการเกษตรที่มีการใช้ประโยชน์จากของเสียจากการเลี้ยงปลามาผ่านการบำบัดน้ำด้วยก้อนกรวดและวัสดุอื่นๆ ในขณะเดียวกันระบบบำบัดน้ำนั้นใช้ประโยชน์ในการการปลูกผัก จึงเป็นรูปแบบการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental friendly) โดยระบบจำลองดังกล่าวเป็นการใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่ที่มีอย่างจำกัด ใช้น้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถผลิตสัตว์น้ำควบคู่ผลผลิตผักที่ปลอดสารพิษได้ ระบบ VICS จึงเป็นนวัตกรรมที่สนองตอบโจทย์สังคมเมืองที่มีพื้นที่จำกัด ประหยัดทรัพยากรน้ำในการเลี้ยงปลาและปลูกพืช ไม่ปล่อยของเสียสู่ภายนอก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน บ้านเรือน หรือหน่วยงานราชการต่างๆ ที่มีพื้นที่จำกัด โครงงานของการทดสอบระบบที่ผ่านมา เช่น ผลของระบบปลูกผักต่อการเจริญเติบโตของผักในระบบอะควาโปนิกส์ วัสดุปลูกที่เหมาะสมสำหรับการผลิตผักกินใบในระบบอะควาโปนิกส์ ผลของการเลี้ยงปลานิลในระบบ VICS ที่มีรูปแบบแตกต่างกันต่อการแสดงออกของโปรตีนความเครียด ผลของความหนาแน่นต่อการเติบโตของปลานิลที่เลี้ยงในระบบ VICS ผลของการเลี้ยงปลานิลในระบบ VICS ในรูปแบบที่แตกต่างกันต่อการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำ การศึกษาวิธีการปฏิบัติที่ดีของการเลี้ยงปลานิลแดงในระบบ VICS ผลของความหนาแน่นต่อการแสดงออกของลักษณะเชิงปริมาณในปลานิลที่เลี้ยงในระบบ VICS ผลของความหนาแน่นต่อการเติบโตของปลานิลที่เลี้ยงในระบบหมุนเวียนน้ำแบบปิด และการเลี้ยงปลานิลแบบผสมผสานในแนวดิ่งด้วยระบบปิด เป็นต้น จึงนำมาสู่การพัฒนานวัตกรรมชุดการเลี้ยงหอยหวานทองในแนวตั้งเชิงพาณิชย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยระบบอควาโปนิกส์
คณะอุตสาหกรรมอาหาร
ในปัจจุบัน การบริโภคโปรตีนจากพืชได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของถั่วลูกไก่และถั่วแดง รวมถึงพัฒนาสูตรเบอร์เกอร์เนื้อเทียมจากพืชที่มีคุณลักษณะใกล้เคียงกับเบอร์เกอร์จากเนื้อสัตว์ ในด้านรสชาติ เนื้อสัมผัส และคุณค่าทางโภชนาการ การทดลองประกอบด้วยการให้ความร้อนโดยการนึ่ง และวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพและเคมี ได้แก่ ค่าเนื้อสัมผัส (Texture) ค่าสี (Color) ค่า Water Activity (aW) ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) และค่าการอุ้มน้ำและอุ้มน้ำมัน นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบทางประสาทสัมผัสเพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภค ผลการศึกษาคาดว่าจะช่วยพัฒนาสูตรเบอร์เกอร์พืชที่มีคุณภาพสูงและสามารถเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ได้
คณะวิศวกรรมศาสตร์
โครงการนี้จัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ด้านระบบนิวเมติกส์และการควบคุมอัตโนมัติ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตในปัจจุบัน โดยระบบนิวเมติกส์มีบทบาทสำคัญในกระบวนการผลิตหลายประเภท เช่น การควบคุมเครื่องจักร อุปกรณ์อัตโนมัติ และระบบสายการผลิต อย่างไรก็ตาม ภาควิชาวิศวกรรมวัดคุมไม่มีห้องปฏิบัติการที่รองรับการศึกษาและทดลองเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ เนื่องจากอุปกรณ์เดิมที่เคยใช้เกิดการชำรุดและไม่ได้รับการซ่อมแซม ทำให้นักศึกษาขาดโอกาสในการฝึกฝนทักษะที่สำคัญต่อการทำงานในภาคอุตสาหกรรม คณะผู้จัดทำเห็นถึงความจำเป็นในการฟื้นฟูและพัฒนาห้องปฏิบัติการนิวเมติกส์ให้สามารถตอบโจทย์การเรียนการสอนและการวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปริญญานิพนธ์นี้มุ่งเน้นการศึกษาและพัฒนาระบบควบคุมแขนกลอุตสาหกรรมและระบบนิวเมติกส์ ควบคู่ไปกับการบูรณาการเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น PLC (Programmable Logic Controller) และ AI Vision ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานจริงในบริบทอุตสาหกรรม ผลการดำเนินงานในโครงการนี้นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังมุ่งหวังที่จะพัฒนาห้องปฏิบัติการให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับนักศึกษารุ่นปัจจุบันและรุ่นถัดไป รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของนักศึกษาในตลาดแรงงาน พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรมการผลิตต่อไปในอนาคต
คณะอุตสาหกรรมอาหาร
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการห่อหุ้มแอนโธไซยานินในอิมัลชันชนิดน้ำในน้ำมันในน้ำ (W/O/W) และกระบวนการทำแห้งแบบพ่นฝอย เพื่อเพิ่มความเสถียรของแอนโธไซยานินจากปัจจัยภายนอก เช่น แสง อุณหภูมิ และการเปลี่ยนแปลงค่า pH การเตรียมอิมัลชัน W/O/W ดำเนินการโดยใช้สารลดแรงตึงผิวที่เหมาะสม และทำแห้งด้วยเครื่องพ่นฝอยที่อุณหภูมิขาเข้า 120–140°C และอุณหภูมิขาออกไม่ต่ำกว่า 80°C ผลการศึกษาพบว่าสัดส่วนองค์ประกอบของน้ำ น้ำมัน และสารลดแรงตึงผิวมีผลต่อคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของอิมัลชัน รวมถึงประสิทธิภาพในการกักเก็บแอนโธไซยานิน อิมัลชัน W/O/W ที่ผ่านกระบวนการทำแห้งแบบพ่นฝอยสามารถกักเก็บแอนโธไซยานินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มความเสถียรในระยะยาว ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพได้