KMITL Innovation Expo 2025 Logo

ชุดสื่อความจริงเสริมร่วมกับเมตาเวิร์ส เพื่อพัฒนาการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ

รายละเอียด

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาสื่อความจริงเสริมร่วมกับเมตาเวิร์ส ที่มีประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาความสามารถของทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษและทักษะการสื่อสารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อประเมินทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษโดยสื่อความจริงเสริมร่วมกับเมตาเวิร์ส และ 3) เพื่อประเมินทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษโดยสื่อความจริงเสริมร่วมกับเมตาเวิร์ส ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 2 ห้องเรียน ห้องละ 60 คน รวมนักเรียนทั้งสิ้น 120 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยแบ่งเป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย ชุดสื่อความจริงเสริมร่วมกับเมตาเวิร์ส แบบประเมินคุณภาพสื่อ แบบทดสอบทักษะการอ่านออกเสียง และแบบประเมินทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือค่าเฉลี่ย (x ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) การทดสอบค่าที (t-test for Independence Samples) และการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม โดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนพหุคูณแบบทางเดียว (Multivariate Analysis of Variance: One-Way MANOVA) ผลการวิจัยพบว่า ค่าเฉลี่ยของคุณภาพของชุดสื่อความจริงเสริมร่วมกับเมตาเวิร์ส ในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับ มากที่สุด (x ̅ = 4.85, S.D. = 0.17) เมื่อพิจารณาแต่ละ ด้านของรายการประเมินพบว่า ในด้านด้านเนื้อหามีคุณภาพอยู่ในดีระดับ มากที่สุด (x ̅ = 4.44, S.D. = 0.29) ในด้านเทคนิคการผลิตสื่อมีคุณภาพอยู่ในดีระดับ มากที่สุด (x ̅ = 4.65, S.D. = 0.29) และการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของความสามารถของทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษ และทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษระหว่างผู้เรียนโดยใช้ชุดสื่อความจริงเสริมร่วมกับเมตาเวิร์ส ระหว่าง 2 กลุ่ม พบว่า กลุ่มการเรียนรู้โดยใช้ชุดสื่อความจริงเสริมร่วมกับเมตาเวิร์สให้ค่าเฉลี่ยความสามารถของทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษสูงกว่ากลุ่มการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ F (1, 89) = 3261.422, p = 0.001, Partial η2 = 0.98 และกลุ่มการเรียนรู้โดยใช้ชุดสื่อความจริงเสริมร่วมกับเมตาเวิร์สให้ค่าเฉลี่ยทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษสูงกว่ากลุ่มการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ F (1, 89) = 4239.365, p = 0.001, Partial η2 = 0.98 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานของงานวิจัยที่ตั้งไว้ “ทักษะของทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษและทักษะการสื่อสารของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 โดยสื่อความจริงเสริมร่วมกับเมตาเวิร์ส หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

วัตถุประสงค์

ภาษาอังกฤษในฐานะภาษาสำคัญของโลก ภาษาอังกฤษปัจจุบันคือภาษานานาชาติ เป็นภาษากลางของโลก ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางของมนุษยชาติ เป็นภาษาที่มนุษย์บนโลกใช้ติดต่อระหว่างกันเป็นหลักไม่ว่าแต่ละคนจะใช้ภาษาอะไรเป็นภาษาประจำชาติ เมื่อต้องติดต่อกับคนอื่นที่ต่างภาษาต่างวัฒนธรรมกันทุกคนจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ทุกคนทุกชาติทุกภาษาจึงบรรจุวิชาภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองรองลงมาจากภาษาประจำชาติ เป็นแกนหลักของหลักสูตรการศึกษาทุกระดับตั้งแต่ปฐมวัยไปจนถึงการศึกษาตลอดชีวิต การใช้เทคโนโลยี AR ทำให้กระบวนการเรียนรู้เป็นที่น่าสนใจมากขึ้น ผู้เรียนเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านประสบการณ์ที่สมจริงและสนุกสนาน เพิ่มความน่าสนใจในการเรียนรู้ การให้ผู้เรียนฟังและอ่านคำศัพท์ผ่านเทคโนโลยีนี้ จะช่วยให้พัฒนาทักษะการอ่านและการฟังของผู้เรียนได้มากขึ้น เป็นการเสริมพัฒนาการอ่านและฟัง และการให้ผู้เรียนได้สัมผัสและสร้างสรรค์ด้วย AR สามารถกระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนในการเรียนรู้ จึงต้องการที่จะสร้าง AR เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีความสมจริงมากขึ้น ผู้เรียนสามารถได้รับการเรียนรู้แบบได้เสมือนจริงที่น่าสนใจและมีความน่าสนใจมากขึ้น ทำให้มีความตั้งใจในการเรียนรู้และนำไปสู่การพัฒนาทักษะดีขึ้น นอกจากนั้น ช่วยในการฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษอย่างทันท่วงที ผู้เรียนสามารถทดลองออกเสียงตามคำและปฏิสัมพันธ์ในสถานการณ์ที่เสมือนจริง ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการพัฒนาทักษะการสนทนาและความมั่นใจในการพูด นอกจากเรื่องของการสื่อสารแล้ว การใช้เทคโนโลยี AR ยังสามารถแสดงตัวอักษรพร้อมกับเสียงที่เกี่ยวข้องกับแต่ละตัวอักษร Phonics ซึ่งช่วยในการสะกดคำและเรียนรู้เสียงของแต่ละตัว การสะกดคำและเสียงในลักษณะของภาพ 3 มิติ, วิดีโอ, หรือการประกาศเสียงที่สามารถช่วยในการเข้าใจและจดจำคำศัพท์ Phonics ได้มากขึ้น ปัญหาที่ค้นพบในวิชาภาษาอังกฤษคือ ผู้เรียนมีปัญหาในการออกเสียงภาษาอังกฤษ เนื่องมาจากความแตกต่างระหว่างระบบเสียงภาษาอังกฤษกับระบบเสียงภาษาไทย ผู้เรียนจำเสียงพยัญชนะไม่ได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย จึงทำให้ผู้เรียนไม่สามารถสะกดคำได้และอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้อง การอ่านออกเสียงสะกดคำ (Phonics) เป็นหลักการถอดเสียงและการประสมเสียงของตัวอักษร ผู้เรียนจะต้องเข้าเสียงของตัวอักษร และสามารถออกเสียงตัวอักษรได้อย่างถูกต้อง จึงจะสามารถประสมเสียงออกมาเป็นคำได้ เช่นคำว่า Cat ผู้เรียนต้องรู้จักเสียงของแต่ละตัวอักษรก่อน จากนั้นจึงค่อยประสมเสียงเป็น เคอะ + แอะ + เทอะ แคท จึงต้องการทดลองใช้ spatial เป็นห้องเรียนเสมือนจริง แล้วใช้โปรแกรม ARyel สร้างสื่อบัตรคำภาษาอังกฤษ AR ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ให้ผู้เรียนได้เข้าไปแสกนเพื่อเข้าไปเรียนในห้องเรียน Metaverse ใน spatial จะช่วยให้ผู้เรียนสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น โดยชุดสื่อความจริงร่วมกับเมตาเวิร์ส เพื่อพัฒนาการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ ที่ได้พัฒนาขึ้นมานี้เกิดจากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลจากแนวคิด ทฤษฎี และหลักสูตรแกนกลาง และได้นำกระบวนการแนวคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) ของ Stanford d. school 5 ขั้นตอน มาใช้ในการพัฒนาชุดสื่อความจริงร่วมกับเมตาเวิร์ส เพื่อพัฒนาการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียงมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้ และช่วยส่งเสริมทัศนคติทางบวกในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษทางด้านการออกเสียง ซึ่งถือเป็นพื้นฐานในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและเพื่อเป็นการพัฒนาผู้เรียนให้มีพื้นฐานด้านการสื่อสารและเป็นการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษให้สูงขึ้น

นวัตกรรมอื่น ๆ

โครงการออกแบบเว็บไซต์ให้ความรู้เรื่อง ความตายกับจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์

คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ

โครงการออกแบบเว็บไซต์ให้ความรู้เรื่อง ความตายกับจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์

เมื่อกล่าวถึงความตายในความหมายของคนทั่วไป มักมีมุมมองและท่าทีต่อความตายว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นเรื่องอัปมงคล แต่หารู้ไม่ว่าจุดจบหรือความตายของใครบางคน ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงซึ่งส่งผลกระทบอันดีต่อความคิด วิถีชีวิต และทัศนคติของผู้คนโดยรอบ อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเรียนวัย 13-18 ปี การเข้าถึงข้อมูลและการทำความเข้าใจเรื่องนี้ยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทาย ข้อมูลส่วนใหญ่ที่มีอยู่มักจะอยู่ในรูปแบบที่ซับซ้อนหรือยากต่อการทำความเข้าใจสำหรับเยาวชน นอกจากนี้ สื่อการสอนในโรงเรียนอาจยังขาดการนำเสนอที่สร้างสรรค์และดึงดูดใจ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ความสนใจของนักเรียนในประเด็นดังกล่าวลดลง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงออกแบบเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งข้อมูลที่มีเนื้อหาเข้าถึงได้ง่าย สร้างสรรค์ ส่งเสริมให้เยาวชนมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของการกระทำและความตายของใครบางคนที่มีต่อโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเขาในการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีในอนาคต

คีเฟอร์นมรสมัลเบอร์รี่

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

คีเฟอร์นมรสมัลเบอร์รี่

ขนมเจลลี่ทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพ อร่อยง่าย พกพาสะดวก ดีต่อลำไส้ อุดมไปด้วยโพรไบโอติกและพรีไบโอติก มีสารต้านอนุมูลอิสระ และยังมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เหมาะกับคนที่รัสุขภาพ และผู้ที่แพ้แลคโตสสามารถรับประทานได้ ไม่ใส่แต่งสี และแต่งกลิ่น

Astaxanthin-rich Oil Extracted with Ultrasound Assisted-Natural Deep Eutectic Solvent from the Byproduct of Black Tiger Shrimp (Panaeus monodon).

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

Astaxanthin-rich Oil Extracted with Ultrasound Assisted-Natural Deep Eutectic Solvent from the Byproduct of Black Tiger Shrimp (Panaeus monodon).

The study investigated the extraction of astaxanthin-rich oil from shrimp waste biomass, a valuable byproduct rich in functional lipids and proteins. Wet rendering has long been an inexpensive method to extract oil, however the high temperatures and long cooking times negatively affect the amount of astaxanthin. On the other hand, the study looked into employing deep eutectic solvent as a green solvent and combining a wet rendering process with high-shear homogenization and high-frequency ultrasound-assisted extractions. DES-UAE at 60% amplitude and wet rendering at 60 °C were found to be the ideal conditions, as were DES-HAE at 13,000 rpm and wet rendering at 60 °C. With a notable increase in oil yields of 16.80% and 20.12%, respectively, and improved oil quality (lower acid and peroxide values) in comparison to the conventional wet rendering, experimental validation validated the effectiveness of the DES-HAE and DES-UAE procedures. DES-UAE notably raised the amount of astaxanthin. This study demonstrates that DES-HAE and DES-UAE are quicker, lower-temperature substitutes for obtaining premium, astaxanthin-rich shrimp oil, resulting in more effective use of this priceless byproduct.