KMITL Expo 2026 LogoKMITL 66th Anniversary Logo

การทดสอบเครื่องอัดประจุไฟฟ้าของยานยนต์ไฟฟ้าตามมาตรฐาน IEC 61851-1 ภาคผนวก A

รายละเอียด

โครงงานนี้มุ่งเน้นการพัฒนาอุปกรณ์ทดสอบเครื่องอัดประจุของยานยนต์ไฟฟ้าแบบกระแสสลับ (AC Charger) ตามมาตรฐาน IEC 61851-1 ภาคผนวก A โดยการจำลองวงจรทดสอบภายในยานยนต์ไฟฟ้าตามมาตฐาน เพื่อใช้ทดสอบการทำงานของเครื่องอัดประจุไฟฟ้ากระแสสลับ โดยในหัวข้อการทดสอบเกี่ยวข้องกับการสื่อสารระหว่างยานยนต์ไฟฟ้ากับเครื่องอัดประจุผ่านระบบวงจรควบคุมด้วยสัญญาณ Pulse Width Modulation (PWM) และจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน (WI) เพื่อเตรียมการทดสอบให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยความสามารถห้องปฏิบัติการในการดำเนินการทดสอบและ/ หรือสอบเทียบ ซึ่งภาพรวมของโครงการนี้คือ พัฒนาอุปกรณ์ทดสอบและจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน โดยได้นำเอาองค์ความรู้และอุปกรณ์ต่างๆมาทำการเก็บข้อมูล จากนั้นนำข้อมูลมาเปรียบเทียบให้เป็นไปตามมาตรฐานข้างต้น เพื่อทดสอบเครื่องอัดประจุไฟฟ้ากระแสสลับ Type II ในแต่ละสถานะ อุปกรณ์การทดสอบประกอบไปด้วยส่วนของการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ทดสอบกับเครื่องอัดประจุไฟฟ้ากระแสสลับ โดยใช้ PLC S7-1200 และ HMI เพื่อควบคุมการทำงานของสวิตช์ในวงจรอุปกรณ์ทดสอบ รวมถึงการควบคุมพารามิเตอร์และแสดงผล ส่วนของอุปกรณ์ที่ใช้วัดค่าออสซิโลสโคปและมัลติมิเตอร์ที่ผ่านกระบวนการสอบเทียบเครื่องมือวัด เพื่อให้สอดคล้องกับมาตฐานที่กำหนดไว้

วัตถุประสงค์

เครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EVSE) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน การทดสอบและตรวจสอบ EVSE ให้เป็นไปตามมาตรฐาน IEC 61851-1 จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับรองความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความน่าเชื่อถือของ EVSE ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่มีนโยบายส่งเสริมการใช้ EV เช่น จีน ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ความต้องการในการติดตั้ง EVSE เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความปลอดภัยในการใช้งาน EVSE ถือเป็นประเด็นที่สำคัญมาก การเกิดความผิดพลาดในระบบชาร์จจนอาจนำไปสู่การเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟฟ้าช็อต หรือความเสียหายต่อระบบยานยนต์ การปฏิบัติตามมาตรฐาน IEC 61851-1 จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่า EVSE ที่ติดตั้งทั่วโลกมีมาตรฐานเดียวกัน ทั้งในด้านความปลอดภัยและการทำงาน นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งาน EV ในการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าในสถานีต่างๆ อย่างปลอดภัย ในปัจจุบัน อุปกรณ์ EVSE ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่อาจยังไม่ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน IEC 61851-1 อย่างครบถ้วน ซึ่งอาจส่งผลให้ระบบชาร์จมีปัญหาในการสื่อสารหรือควบคุมกระแสไฟระหว่างการชาร์จ การทดสอบ EVSE ตามมาตรฐานนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยืนยันว่าอุปกรณ์สามารถทำงานได้ถูกต้องตามข้อกำหนด และมีการตอบสนองที่รวดเร็วเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสัญญาณควบคุม นอกจากนี้ การทดสอบ EVSE กับระบบจริงอาจมีความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายต่อยานยนต์ไฟฟ้าหรือระบบชาร์จ หากอุปกรณ์ยังไม่ผ่านการทดสอบที่ถูกต้อง การสร้างแบบจำลองวงจรการสื่อสารของยานยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นวิธีที่ช่วยให้การทดสอบสามารถทำได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายต่อระบบจริง

นวัตกรรมอื่น ๆ

การตรวจโปรตีนในน้ำลายเพื่อการวินิจฉัยโรคไมเกรน

คณะแพทยศาสตร์

การตรวจโปรตีนในน้ำลายเพื่อการวินิจฉัยโรคไมเกรน

โรคปวดศรีษะไมเกรน เป็นโรคที่พบได้บ่อย และ ส่งผลต่อการทำงาน การดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก โรคปวดศรีษะไมเกรนแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะอาการเตือน (Prodrome หรือ premonitory) ระยะออร่า (Aura) ระยะปวดศีรษะ (Headache) และระยะฟื้นตัว (Postdrome) โดยระยะอาการเตือน (premonitory stage) สามารถเกิดขึ้นก่อนการปวดศีรษะได้นานถึง 72 ชั่วโมง และถือเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีการศึกษาพบว่าการใช้ยาในระยะนี้สามารถช่วยป้องกันการปวดศรีษะได้ อย่างไรก็ตาม อาการในระยะนี้มักไม่จำเพาะเจาะจง ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่ากำลังอยู่ในระยะอาการเตือนของไมเกรนหรือไม่ โปรตีน Calcitonin gene-related peptide (cGRP) เป็นโมเลกุลสำคัญที่มีบทบาทในการเกิดไมเกรน โดยมีงานวิจัยพบว่าระดับ cGRP ในน้ำลายเพิ่มขึ้นในช่วงระยะอาการเตือน (premonitory stage) การศึกษานี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาและประเมินชุดทดสอบแบบ Lateral Flow Immunoassay สำหรับตรวจหาระดับ cGRP ในน้ำลายของผู้ป่วยไมเกรนในระยะอาการเตือน ซึ่งอาจเป็นเครื่องมือช่วยยืนยัน เพื่อให้ผู้ป่วยมั่นใจ และ ใช้ยาก่อนที่จะมีอาการปวดหัว

ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเกษตรกรรมและสิ่งแวดล้อม

คณะวิศวกรรมศาสตร์

ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเกษตรกรรมและสิ่งแวดล้อม

ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเกษตรกรรมและสิ่งแวดล้อมเป็นการรวบรวมแบบจำลองซึ่งมีนัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างโดยการเรียนรู้ของเครื่องและการเรียนรู้ลึกซึ่งพัฒนาขึ้นโดยศูนย์วิจัยเนียร์อินฟราเรดสเปกโทรสโกปีสำหรับผลิตผลเกษตรและอาหาร ได้แก่ การระบุความต้องการธาตุอาหาร (N P K) ของต้นทุเรียนโดยวัดใบทุเรียนโดยเทคนิคไม่ทำลายด้วยปัญญาประดิษฐ์ การระบุสมบัติการเผาไหม้ของชีวมวลจากไม้โตเร็วและของเหลือทางเกษตรโดยวัดโดยเทคนิคไม่ทำลายด้วยปัญญาประดิษฐ์ และ การประเมินการเกิดภาวะโลกร้อนเนื่องจากการเผาไหม้ชีวมวลโดยเทคนิคไม่ทำลายด้วยปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีพื้นฐานซึ่งนำมาใช้ คือ เทคโนโลยีเนียร์อินฟราเรดฟูเรียร์ทรานสฟอร์มสเปกโทรสโกปี ซึ่งการวัดและการแสดงผลทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องใช้สารเคมี ไม่ต้องการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ราคาการวัดต่อตัวอย่างถูกมาก แต่เครื่องวัดยังไม่สามารถผลิตได้ในประเทศไทย

ห้องนิทรรศการจำลอง

คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ

ห้องนิทรรศการจำลอง

-