การศึกษาเรื่องสับปะรดแปรรูป มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลดปัญหาสับปะรดที่กำลังจะเป็นของเสียจากปัญหา Climate change และเพื่อหากรรมวิธีที่มีความเหมาะสมกับการแปรรูปของสับปะรดสายพันธุ์ โดยผู้จัดทำเลือกใช้กรรมวิธีการอบแห้ง หรือ Dehydration ในการแปรรูป เนื่องจากมีความเหมาะสมด้านคุณสมบัติของพันธุ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่สุด และลดของเสียที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดคุณค่ากับผลผลิตมากที่สุด การศึกษานี้ทำขึ้นเพื่อพัฒนาการแปรรูปสับปะรดสายพันธุ์ใหม่ นำหลักการการแปรรูปหลากหลายรูปแบบมาปรับให้เข้ากับสับปะรดสายพันธุ์นี้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตรให้มากขึ้น และลดปัญหาของเสียที่กำลังจะเกิดได้จำนวนมาก อีกทั้งยังมีโอกาสในการทำตลาดในอนาคตอีกด้วย
เนื่องด้วยปัจจุบันสภาพแวดล้อมบนโลกมีผลกระทบหลายๆอย่าง เช่น สภาวะโลกร้อน ซึ่งสร้างผลกระทบกับผลไม้เกือบทุกชนิดบนโลก หนึ่งในนั้นคือ สับปะรด แม้สับปะรดจะเป็นพืชที่ปลูกได้ดีในสภาพอากาศแห้งแล้ง แต่เมื่อออกผล สภาพแวดล้อมก็ส่งผลต่อผลผลิตของสับปะรดเช่นกัน ทำให้ผลของสับปะรดเกิดความเสียหาย ไม่สามารถนำไปทำการค้าขายได้ทั้งหมด หรือรับประทานสดได้ สับปะรดเป็นผลไม้ที่เหมาะทั้งการรับประทานสด และแปรรูป ซึ่งการรับประทานสด จะโดดเด่นในด้านที่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีสารบรอมีเลนที่สำคัญในการช่วยเหลือระบบย่อยอาหาร และสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆได้ แต่เมื่อเกิดปัญหาสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้สับปะรดผลสดเกิดความเสียหายอย่างรอบด้านไม่ว่าจะเป็น ตาแตก หรือผิวสับปะรดไหม้ ทำให้การรับประทานผลสดไม่เหมาะสมเท่าที่ควร ในหลาย ๆ แห่งจึงมีการปรับตัวเมื่อทราบสถานการณ์ดังกล่าว จึงหาทางแก้ไขด้วยการนำสับปะรดมาแปรรูปเป็นลักษณะต่าง ๆ มากมายเพื่อให้เกิดคุณค่ากับผลผลิต และลดของเสียที่เกิดขึ้น สับปะรดพันธุ์จินจ้วน หรือใต้หวันหมายเลข 17 เป็นสับปะรดที่สามารถปลูกได้หลายแห่งบนโลกและในไทย ซึ่งมักเกิดปัญหาตาแตก ด้วยเนื้อที่แน่น และจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในไทยอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นของเสียทิ้งเปล่า สับปะรดพันธุ์ดังกล่าวมีคุณสมบัติที่เหมาะสมทั้งรับประทานสด เพราะมีลักษณะสีเหลืองทอง เนื้อแน่น มีความหวานอยู่ที่ระดับ 14 บริกซ์ และการแปรรูป เนื่องจากมีคุณสมบัติที่มีความเหมาะสม เช่น มีเส้นใยที่เล็ก และนุ่ม ทำให้รับประทานง่าย ไม่เหนียว ทำให้การแปรรูปจึงมีความเหมาะสมตามคุณสมบัติ แต่ก็สามารถใช้ได้ในบางกรรมวิธีเท่านั้น จากที่กล่าวมาข้างต้นผู้จัดทำจึงมีความสนใจในการทำสับปะรดแปรรูปจากของเสียที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยการนำผลที่ใกล้พร้อมการเก็บเกี่ยวมาแปรรูป เพื่อลดปริมาณของเสีย จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว และหากรรมวิธีในการแปรรูปที่มีความเหมาะสม เพื่อยืดอายุ สร้างคุณค่า และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
ภาควิชาครุศาสตร์วิศวกรรม สจล. มีการจัดการเรียนการสอนวิชาทางด้านปฏิบัติการอิเล็กทรอนิกส์กำลัง ซึ่งมีการใช้งานชุดปฏิบัติการที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทีมีราคาแพง ซึ่งทำให้สูญเสียรายได้ของประเทศในการจัดซื้อชุดฝึกดังกล่าว ทางผู้จัดทำจึงเสนอชุดปฏิบัติการอิเล็กทรอนิกส์กำลัง ที่สามารถใช้งานได้เทียบเท่าหรือดีกว่าชุดฝึกนำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมทั้งมีราคาที่ถูกกว่า เพื่อใช้ในการทดลองสำหรับนักศึกษา

คณะอุตสาหกรรมอาหาร
ซอสมะม่วงมหาชนกพัฒนาจากมะม่วงตกเกรดจากบ้านหนองบัวชุม จ.กาฬสินธุ์ ใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์การอาหารเพื่อลดของเสียทางการเกษตรและปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซอสนี้เสริมใยอาหารพรีไบโอติก ช่วยส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ มีน้ำตาลต่ำ ดีต่อสุขภาพ ปราศจากการแต่งสีและกลิ่น เหมาะกับอาหารหลากหลายประเภททั้งคาวเเละหวาน

คณะเทคโนโลยีการเกษตร
การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาชนิดของพอลิเมอร์ที่เหมาะสมในการเคลือบร่วมกับสารสกัดคลอโรฟิลล์และคุณภาพของเมล็ดพันธุ์แตงกวาหลังจากการเคลือบ วางแผนการทดลองแบบ Completely Randomized Design (CRD) จำนวน 4 ซ้ำ โดยมี 5 กรรมวิธี ประกอบด้วยเมล็ดพันธุ์ที่เคลือบด้วยพอลิเมอร์ชนิดต่างกัน คือ Polyvinylpyrrolidone, Sodium Alginate, Carboxy Methyl Cellulose, Hydroxypropyl methylcellulose โดยพอลิเมอร์แต่ละชนิดทำการเคลือบร่วมกับ Chlorophyll และมีเมล็ดพันธุ์ที่ไม่เคลือบสารเป็นกรรมวิธีควบคุม ดำเนินการทดลองโดยเตรียมสารเคลือบด้วยการสกัด Chlorophyll จากใบมะม่วง แล้วนำมาเตรียมสารเคลือบโดยนำมาผสมกับพอลิเมอร์แต่ละชนิดที่มีความเข้มข้น 1 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้สารสกัด Chlorophyll ที่มีความเข้มข้น 8 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นตรวจสอบคุณสมบัติของสารเคลือบแต่ละกรรมวิธี ได้แก่ ความเป็นกรดด่างและความหนืดของสารเคลือบ แล้วจึงนำมาเคลือบเมล็ดพันธุ์แตงกวาด้วยเครื่องเคลือบระบบจานหมุนรุ่น RRC150 ในอัตราสารเคลือบ 1,100 มิลลิลิตรต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม จากนั้นนำมาลดความชื้นให้เมล็ดพันธุ์มีระดับความชื้นเท่ากับระดับความชื้นเริ่มต้นด้วยเครื่องเป่าลมร้อน แล้วตรวจคุณภาพเมล็ดพันธุ์ในลักษณะต่างๆ ได้แก่ ความชื้นของเมล็ดพันธุ์ ความงอกของเมล็ดพันธุ์ที่เพาะในสภาพห้องปฏิบัติการ ดัชนีการงอก และการเรืองแสงของเมล็ดพันธุ์ภายใต้เครื่องฉายแสงอัลตราไวโอเลตแบบพกพารวมถึงตรวจสเปกตรัมการคายแสงด้วยเครื่อง Spectrophotometer ผลการทดลองพบว่าพอลิเมอร์แต่ละชนิดสามารถนำมาใช้เป็นสารก่อฟิล์มร่วมกับคลอโรฟิลล์ได้ ซึ่งมีความเป็นกรด-ด่างและมีความหนืดของสารเคลือบที่เหมาะสม ไม่มีผลต่อคุณภาพของเมล็ดพันธุ์และมีการเรืองแสงที่ผิวของเมล็ดพันธุ์ทั้งการตรวจสอบภายใต้เครื่องฉายแสงอัลตราไวโอเลตแบบพกพาและการตรวจสเปกตรัมการคายแสงภายใต้เครื่อง Spectrophotometer โดยการใช้ HPMC เป็นสารก่อฟิล์มร่วมกับคลอโรฟิลล์ เป็นกรรมวิธีที่เหมาะสมทำให้เมล็ดพันธุ์มีประสิทธิภาพในการเรืองแสงมากที่สุด