KMITL Innovation Expo 2025 Logo

การศึกษาสารสกัดจากสาหร่ายขนาดเล็ก Chlorella sp. KLSc61 เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของ Lactobacillus plantarum JCM 1149

รายละเอียด

สาหร่ายขนาดเล็กอุดมไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ สารเหล่านี้อาจมีผลช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของโพรไบโอติกที่จำเป็นต้องอาศัยสารอาหารที่เหมาะสม หรือที่เรียกว่าพรีไบโอติก งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดหยาบจากสารภายในเซลล์ของสาหร่ายขนาดเล็ก Chlorella sp. KLSc61 ต่อการส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์โพรไบโอติก Lactiplantibacillus plantarum JCM1149 ภายใต้สภาวะระบบย่อยอาหารจำลอง โดยทำการสกัดสารจากภายในเซลล์สาหร่าย ด้วยเอทานอลเข้มข้น 70% (v/v) เพื่อเตรียมสารสกัดสำหรับการทดสอบผลต่อการเจริญของโพรไบโอติกแบคทีเรีย จากนั้นนำสารสกัดจากสาหร่าย ที่ความเข้มข้น 0.1%, 0.75% และ 1.5% มาทดสอบการเจริญเติบโตของโพรไบโอติกแบคทีเรีย Lactiplantibacillus plantarum JCM1149 โดยวัดการเจริญของโพรไบโอติกแบคทีเรีย ด้วยวิธีการดรอปเพลท ผลการศึกษานี้จะช่วยให้เข้าใจถึงศักยภาพของสารสกัดจาก Chlorella sp. KLSc61 ในการส่งเสริมการเจริญของโพรไบโอติก ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีคุณสมบัติเป็นซินไบโอติก (Synbiotic) ที่มีทั้งโพรไบโอติกและพรีไบโอติกในอนาคต อีกทั้งยังสามารถเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการศึกษาต่อยอดเกี่ยวกับบทบาทของสารสกัดจากสาหร่ายต่อสุขภาพระบบทางเดินอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน

วัตถุประสงค์

ในปัจจุบันผู้บริโภคมีความตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสมดุลในระบบย่อยอาหารมากขึ้น เนื่องจากระบบย่อยอาหาร มีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวม เซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกายอาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารประมาณ 70-80% (Bergenhenegouwen et al., 2021) การดูดซึมสารอาหาร การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพจิต หนึ่งในกลไกที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ คือการบริโภคโพรไบโอติกหรือจุลินทรีย์มีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภคโดยการรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้อย่างไรก็ตาม เพื่อให้โพรไบโอติกสามารถเจริญเติบโตและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของโพรไบโอติก นั่นคือ พรีไบโอติก พรีไบโอติก เป็นใยอาหารชนิดพิเศษที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ แต่เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโพรไบโอติก เมื่อโพรไบโอติกได้รับสารอาหารที่เพียงพอจากพรีไบโอติก จุลินทรีย์เหล่านี้จะสามารถเติบโตและทำหน้าที่ในการปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ได้ดีขึ้น การบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งพรีไบโอติกและโพรไบโอติก หรือ ซินไบโอติกจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมสุขภาพลำไส้และป้องกันปัญหาต่าง ๆ เช่น อาการท้องผูก การอักเสบในลำไส้ และการเกิดโรคลำไส้อักเสบ โดยพรีไบโอติกส์ที่เป็นที่นิยมส่วนใหญ่พบในสาหร่าย น้ำผลไม้ เปลือก เมล็ด พืชสมุนไพรจีนดั้งเดิม และจุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับโพลีแซกคาไรด์ โพลีฟีนอล และโพลีเปปไทด์ (Wang et al., 2021) ดังนั้น ผู้จัดทำนี้จึงสนใจที่จะทำการศึกษาสารสกัดหยาบจากสารภายในเซลล์สาหร่ายขนาดเล็ก Chlorella sp. KLSc61 เพื่อประเมินความสามารถในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์ Lactobacillus plantarum JCM 1149 ภายใต้สภาวะระบบย่อยอาหารจำลอง เพื่อทราบถึงประสิทธิภาพสารสกัดสาหร่าย Chlorella sp. KLSc61 ในการส่งเสริมสุขภาพของระบบย่อยอาหาร และเป็นแนวทางในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีโพรไบโอติกและพรีไบโอติกในอนาคต

นวัตกรรมอื่น ๆ

การปรับปรุงพันธุ์เบญจมาศโดยใช้สิ่งก่อกลายพันธุ์

คณะเทคโนโลยีการเกษตร

การปรับปรุงพันธุ์เบญจมาศโดยใช้สิ่งก่อกลายพันธุ์

ศึกษาผลของสารก่อกลายพันธุ์ ethyl methane sulfonate (EMS) และสารโคลชิซินในการชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเฐญจมาศในสภาพปลอดเชื้อ โดยทำการแช่เนื้อเยื้อเบญจมาศในสารละลายที่รดับความเข้มข้นต่างๆในระยะเวลาที่แตกต่างกัน พบว่า ชิ้นส่วนเริ่มต้นที่แช่สารละลาย EMS ส่งผลต่อลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งสีดอกและรูปทรงของดอก ส่วนสารละลายโคลชิซินส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของจำนวนโครโมโซม และเพิ่มขนาดของต้นและดอก และตรวจสอบด้วยเครื่องหมายโมเลกุลสามารถแยกความแตกต่าง การใช้สิ่งก่อกลายพันธุ์ร่วมกับการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสามารถชักนำให้เกิดลักษณะใหม่ นำไปสู่การพัฒนาพันธุ์เพื่อเป็นไม้ดอกการค้าได้

ระบบจำแนกสุขภาพปะการัง

คณะวิทยาศาสตร์

ระบบจำแนกสุขภาพปะการัง

ในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและกิจกรรมของมนุษย์ส่งผลให้แนวปะการังทั่วโลกเผชิญกับภาวะเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว การตรวจสอบสุขภาพของปะการังจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล โครงการนี้มุ่งเน้นการพัฒนาแบบจำลองปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อจำแนกสุขภาพของปะการังออกเป็นสี่ประเภท ได้แก่ ปะการังแข็งแรง (Healthy), ปะการังฟอกขาว (Bleached), ปะการังซีด (Pale), และปะการังตาย (Dead) โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก (Deep Learning) เป็นพื้นฐานในการฝึกสอนแบบจำแนกภาพ ในกระบวนการฝึกแบบจำลอง ได้มีการใช้เทคนิค Cross-Validation (k=5) เพื่อเพิ่มความแม่นยำ พร้อมทั้งบันทึกโมเดลที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดหลังการฝึกผลลัพธ์ของโครงการนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของแนวปะการัง และช่วยนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเลในอนาคต

ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอัตโนมัติในโรงเรือนเห็ดนางฟ้าภูฐานในครัวเรือนขนาดเล็ก

คณะเทคโนโลยีการเกษตร

ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอัตโนมัติในโรงเรือนเห็ดนางฟ้าภูฐานในครัวเรือนขนาดเล็ก

ในปัจจุบัน ความสนใจในสุขภาพและการบริโภคอาหารปลอดสารพิษได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาหารที่สามารถผลิตได้เองในครัวเรือน เช่น เห็ดนางฟ้าภูฐาน ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเหมาะสำหรับการควบคุมน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม การเพาะเห็ดในโรงเรือนขนาดเล็กมักประสบปัญหาสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิและความชื้นที่ไม่เสถียร ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของเห็ด การพัฒนาระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอัตโนมัติจึงมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นเพื่อปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเห็ดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดความผิดพลาดจากการควบคุมด้วยมือ และส่งเสริมการผลิตอาหารที่ปลอดภัยในครัวเรือน นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและสนับสนุนแนวคิดการใช้ชีวิตที่ยั่งยืน การใช้เทคโนโลยีนี้จึงถือเป็นนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับการเพาะเห็ดให้มีคุณภาพและเพิ่มความยั่งยืนในการผลิตอาหาร