กากกาแฟเป็นส่วนเหลือจากการชงกาแที่มีส่วนของสารอาหารหลายชนิด งานวิจัยนี้จึงใช้กากกาแฟเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์แครกเกอร์ โดยศึกษาสูตรและกระบวนการผลิตแครกเกอร์สูตรพื้นฐานที่ได้รับความนิยม ก่อนการเสริมด้วยกากกาแฟที่อัตราส่วนต่างๆ ผลการทดลองพบว่าการใส่กากกาแฟในแครกเกอร์ ได้รับคะแนนความชอบจากผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มกาแฟ อีกทั้งยังกากกาแฟยังสามารถเพิ่มปริมาณสารอาหาร โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ให้กับผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์เบเกอรี เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคนิยมชื่นชอบ และสะดวกต่อการบริโภคทั้งในเวลาเร่งด่วนและเวลาว่าง โดยเฉพาะแครกเกอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สะดวกพกพา และสามารถนำมาบริโภคได้ในทุกช่วงเวลา การเสริมคุณค่าทางโภชนาการในแครกเกอร์ จึงมีส่วนช่วยให้ผู้บริิโภคได้รับประโยชน์มากขึ้น นอกจากนี้ แครกเกอร์มีองค์ประกอบของส่วนผสมที่อาจส่งผลต่อคุณภาพ โดยเฉพาะไขมัน แนวมลทางการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบที่มีส่วยช่วยในการเสริมสารอาหารแบะช่วยต้านการเกิดปฎิกิริยาออกซิเดชันเนื่องจากไขมัน จึงมีศักยภาพในการนำไปใช้ผลิตจริง กากกาแฟจึงนับเป็นวัตถุดิบที่มีคุณลักษณะดังกล่าว งานวิจัยนี้จึงใช้กากกาแฟในการเสริมอาหารให้กับแครกเกอร์ ด้วยกากกาแฟมีใยอาหาร มีสารประกอบโพลีฟีนอลดและยังเป็นการใช้ประโยชน์จากส่วนเหลือการชงกาแฟ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คณะวิศวกรรมศาสตร์
โปรเจคนี้มีเป้าหมายในการพัฒนาต้นแบบของระบบเล็งอาวุธที่จำลองเป็นปืนต่อต้านอากาศยาน โดยใช้กล้องออปติคอลเพื่อตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนที่และคำนวณวิถีแบบ Real time ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะส่งไปยังเลเซอร์พอยน์เตอร์บนมอเตอร์ 2 แกนหมุน แบบ degrees of freedom(DoF) ส่งผลให้สามารถเล็งไปยังเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ได้ ระบบนี้ถูกสร้างขึ้นบนแพตฟอร์มของ Raspberry Pi 4 ร่วมกับซอฟแวร์ machine vision โปรแกรมการ tracking นั้นถูกพัฒนาภายใต้ไลบรารีของ OpenCV โดยอาศัย color detections algorithms ผลการทดลองตอนนี้สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของลูกเทนนิสแบบ real time ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที(fps) ขณะนี้โปรเจคอยู่นขั้นตอนการออกแบบและทดลองกับระบบแมคคานิคเพื่อควบคุมเลเซอร์พอยน์เตอร์ให้แม่นยำ โปรเจคนี้มีการนำความรู้ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์(computer programing) และวิศวกรรมเครื่องกล(การควบคุมมอเตอร์)มาใช้งาน
วิทยาลัยนวัตกรรมการผลิตขั้นสูง
เครื่องทำความร้อนแบบเหนี่ยวนำ (Induction Heating Machine: IHM) เป็นอุปกรณ์สำคัญในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ โดยใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อให้ความร้อนและเชื่อมโลหะมีค่า งานวิจัยนี้มุ่งพัฒนาเครื่องทำความร้อนแบบเหนี่ยวนำขดลวดคู่ (Dual Coil IHM) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนของโรงงานเครื่องประดับ โดยใช้ การวิเคราะห์แม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Analysis: EMA) ผ่านซอฟต์แวร์ Ansys Maxwell กระบวนการวิจัยเริ่มจากการทดสอบเครื่อง IHM แบบขดลวดเดี่ยวในสภาวะการทำงานจริง และใช้ EMA เพื่อวิเคราะห์ความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก (B) ที่เกิดขึ้น จากนั้นได้ออกแบบและเปรียบเทียบการทำงานของขดลวดคู่ในรูปแบบ ขนาน (Parallel) และ อนุกรม (Series) ผลการทดลองพบว่า ขดลวดอนุกรมให้ค่าฟลักซ์แม่เหล็กสูงกว่า และสามารถปรับค่ากระแส (I), ความถี่ (f), จำนวนรอบขดลวด (N) และระยะห่างขดลวด (d) เพื่อให้ได้ค่าที่เหมาะสมสำหรับการผลิต ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า เครื่อง IHM ขดลวดคู่แบบอนุกรมสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ 2 เท่า เมื่อเทียบกับเครื่องเดิม ทั้งนี้ เทคโนโลยี EMA ช่วยลดการทดลองเชิงกายภาพ ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความแม่นยำในการออกแบบเครื่องจักรอุตสาหกรรมเครื่องประดับ
คณะอุตสาหกรรมอาหาร
การใช้น้ำมันพืชซ้ำในการประกอบอาหารส่งผลให้เกิดการเสื่อมสภาพและก่อให้เกิดสารพิษจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน การศึกษานี้มุ่งเน้นการเพิ่มเสถียรภาพของน้ำมันพืชโดยใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตราโซนิคร่วมกับการบ่มปลีกล้วย 3 สายพันธุ์ ได้แก่ กล้วยไข่ กล้วยหอม และกล้วยน้ำว้า ซึ่งมีสารประกอบฟีนอลิกและสารต้านอนุมูลอิสระสูง งานวิจัยนี้ศึกษาการฟื้นฟูน้ำมันปาล์มที่ใช้แล้วโดยการบ่มร่วมกับปลีกล้วยที่ผ่านการอบแห้งและบดละเอียด โดยใช้คลื่นอัลตราโซนิคที่อุณหภูมิและระยะเวลาต่างๆ จากนั้นทำการทดสอบคุณภาพน้ำมันที่ได้รับการบ่มผ่านการวิเคราะห์ค่าทางกายภาพ (ปริมาณน้ำอิสระ ความชื้น และค่าสี) ค่าทางเคมี (ค่าดัชนีเปอร์ออกไซด์ ค่าความเป็นกรด และค่าไทโอบาร์บิทูริกแอซิด) และประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระ (DPPH, ABTS และ FRAP)