KMITL Expo 2026 LogoKMITL 66th Anniversary Logo

การบำบัดด้วยภูมิทัศน์เสียงสามมิติ: สำรวจตำแหน่งซ้าย-ขวาของบีทในการบำบัดด้วยไบนัวรอลบีท

รายละเอียด

โครงการนี้มุ่งสำรวจศักยภาพของการบำบัดด้วยไบนัวรอลบีท (Binaural Beats) ในสภาพแวดล้อมเสียงสามมิติ โดยมุ่งเน้นผลกระทบของการกำหนดตำแหน่งเสียงบีท (Beat) ในมิติซ้าย-ขวา (L-R) ในตำแหน่งต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยี Dolby Atmos เพื่อสร้างประสบการณ์เสียงที่สมจริง งานวิจัยนี้มีเป้าหมายเพื่อศึกษาว่าการจัดตำแหน่งเสียงบีท (Beat) ในมิติต่าง ๆ ในการบำบัดด้วยไบนัวรอลบีท (Binaural Beats) จะมีผลอย่างไรต่อจิตใจและอารมณ์ ไบนัวรอลบีท (Binaural Beats) เป็นรูปแบบหนึ่งของการเหนี่ยวนำคลื่นสมอง (Auditory Brainwave Entrainment) ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยให้เกิดการผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมองได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีการศึกษาเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีที่เทคโนโลยีเสียงสามมิติ งานวิจัยนี้จะตรวจสอบว่าการกำหนดตำแหน่งเสียงบีท (Beat) ในมิติซ้าย-ขวาที่แตกต่างกันในสภาพแวดล้อมเสียงสามมิติจะส่งผลอย่างไรต่อการรับรู้และผลลัพธ์ในการบำบัด ผู้เข้าร่วมจะได้รับประสบการณ์การบำบัดด้วยไบนัวรอลบีท (Binaural Beats) ในตำแหน่งซ้าย-ขวาต่าง ๆ ของบีท (Beat) โดยจะมีการวัดผลด้านสรีรวิทยา เช่น ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ และการประเมินระดับความผ่อนคลายตามการรายงานของผู้เข้าร่วม ผลการวิจัยคาดว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่เกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมเสียงสามมิติกับการบำบัดด้วยเสียง ซึ่งอาจช่วยพัฒนาการบำบัดด้วยเสียงให้ดียิ่งขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีเสียงขั้นสูง

วัตถุประสงค์

การบำบัดด้วยเสียงเป็นหนึ่งในวิธีการบำบัดที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานในหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นในด้านการแพทย์, การบำบัดทางจิตวิทยา, หรือในศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพต่าง ๆ การบำบัดด้วยเสียงมีประสิทธิภาพในการช่วยลดความเครียด, ส่งเสริมการนอนหลับ, และปรับปรุงสมาธิ นอกจาก ดนตรีบำบัด (Music therapy) ที่ใช้กันมาอย่างแพร่หลาย เสียงไบนัวรอลบีท (Binaural beat) ยังเป็นหนึ่งในรูปแบบเสียงที่ได้รับความสนใจจากนักวิจัย เนื่องจากมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าสามารถช่วยปรับปรุงสภาวะจิตใจและร่างกายของผู้ฟังได้ เสียงไบนัวรอลบีทเกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดเสียงที่มีความถี่ต่างกันเพียงเล็กน้อยในแต่ละหู ทำให้สมองสร้างคลื่นเสียงใหม่ที่มีความถี่เท่ากับความแตกต่างระหว่างความถี่ทั้งสอง คลื่นเสียงนี้สามารถกระตุ้นสมองในลักษณะที่ช่วยในการผ่อนคลาย, การเพิ่มสมาธิ, และการนอนหลับที่ดีขึ้น ระบบเสียงรอบทิศทาง (Immersive sound system) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถสร้างประสบการณ์การฟังที่มีความสมจริงและสมบูรณ์มากขึ้น โดยการใช้ลำโพงหลายตัวหรือหูฟังแบบพิเศษ เพื่อสร้างเสียงที่มาจากทุกทิศทาง การนำเสียงไบนัวรอลบีทมาใช้ในระบบเสียงรอบทิศทางนั้นมีศักยภาพที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัด เนื่องจากเสียงที่มีความสมจริงและลึกซึ้งมากขึ้นช่วยให้ผู้ฟังดื่มด่ำและมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดีกว่า นอกจากนี้ การศึกษานี้ยังมีความสำคัญในการเป็นฐานข้อมูลและแนวทางสำหรับการวิจัยในอนาคตเกี่ยวกับการใช้เสียงในด้านต่าง ๆ การวิจัยที่เกิดขึ้นสามารถนำไปสู่การค้นพบวิธีการใหม่ ๆ ในการบำบัดด้วยเสียงและการใช้เสียงเพื่อปรับปรุงสภาวะจิตใจและร่างกายของผู้คนในสังคม

นวัตกรรมอื่น ๆ

ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์และสมบัติการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียแลคติก

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์และสมบัติการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียแลคติก

งานวิจัยนี้ทำการแยกและเลี้ยงเชื้อแบคทีเรียแลคติกที่แยกได้จากอาหารหมักจำนวน 4 สายพันธุ์โดยศึกษาฤทธิ์การต้านเชื้อจุลินทรีย์ของเชื้อแบคทีเรียแลคติก โดยใช้วิธี agar spot และ ศึกษาสมบัติการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียแลคติก โดยใช้วิธี agar overlay diffusion method ผลการทดลองพบว่าแบคทีเรียแลคติกแต่ละสายพันธุ์มีฤทธิ์การต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในอาหาร และสมบัติการดื้อยาปฏิชีวนะที่ระดับแตกต่างกัน ซึ่งเป็นสมบัติด้านความปลอดภัยของจุลินทรีย์โพรไบโอติก

ลอยไปลอยมา

คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ

ลอยไปลอยมา

-

ระบบเว็บอัจฉริยะสำหรับการคัดเลือกพนักงานด้วยปัญญาประดิษฐ์

คณะวิทยาศาสตร์

ระบบเว็บอัจฉริยะสำหรับการคัดเลือกพนักงานด้วยปัญญาประดิษฐ์

การสรรหาบุคลากรเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของตำแหน่งงาน อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้มักเผชิญกับปัญหาด้านการจัดการข้อมูล ความล่าช้า และอคติของมนุษย์ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันอัจฉริยะสำหรับการสรรหาพนักงานโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยประเมินและให้คะแนนความเหมาะสมของผู้สมัครกับตำแหน่งงาน โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลจากประวัติย่อ (Resume) และกระบวนการจับคู่คุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ระบบที่พัฒนาขึ้นตามหลักการอาไจล์ (Agile ) ใช้เทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing: NLP) ในการวิเคราะห์ประวัติย่อ พิจารณาคุณสมบัติ ทักษะ และประสบการณ์ของผู้สมัคร พร้อมทั้งใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ในการคาดการณ์และจัดลำดับความเหมาะสม ระบบสามารถรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งให้อยู่ในฐานข้อมูลเดียวกัน เพื่อลดความซ้ำซ้อนและข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูล และนำเสนอข้อมูลผ่านแดชบอร์ดเพื่อให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ