KMITL Innovation Expo 2026 LogoKMITL 66th Anniversary Logo

การจัดการตารางการรักษาเคมีบำบัดของผู้ป่วยโรงพยาบาลมะเร็งและแชทบอทให้คำปรึกษา

รายละเอียด

การรักษาผู้ป่วยมะเร็งในแผนกเคมีบำบัดของโรงพยาบาลมะเร็งชลบุรีมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและไม่สะดวก เนื่องจากกระบวนการส่งผลตรวจเลือดผ่านแอปพลิเคชันไลน์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ทำให้การดำเนินงานขาดความคล่องตัว ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงพัฒนาโปรแกรมบริหารจัดการและติดตามผู้ป่วยมะเร็งในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชัน (web-based application) และแอปพลิเคชันไลน์ LINE LIFF (LINE Front-end Framework) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย ระบบเว็บแอปพลิเคชันออกแบบมาเพื่อใช้โดยบุคลากรทางการแพทย์ในการติดตาม นัดหมาย และเก็บข้อมูลผู้ป่วย ส่วนแอปพลิเคชันไลน์ ออกแบบสำหรับผู้ป่วยในการส่งผลตรวจเลือด ดูตารางนัดหมาย บันทึกอาการหลังรับยาเคมีบำบัด บันทึกค่าน้ำหนักของผู้ป่วยทุกสัปดาห์ และแชทบอทสำหรับให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วย ระบบนี้พัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยีไคลเอนต์-เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์ข้อมูลและสนับสนุนการวางแผนการรักษาอย่างอัตโนมัติ ส่งผลให้กระบวนการรักษาผู้ป่วยมะเร็งมีความรวดเร็ว ทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

วัตถุประสงค์

ในแต่ละปีคนไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกปี การรักษาโรคก็มีหลากหลายวิธีขึ้นกับระยะและอาการของโรค เช่น การรักษาด้วยการผ่าตัด การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด การรักษาด้วยการฉายรังสี เป็นต้น โดยขั้นตอนการรักษาผู้ป่วยมะเร็งของแผนกเคมีบำบัดของโรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี มีขั้นตอนดังนี้ พยาบาลทำการแนะนำให้ผู้ป่วยทำการตรวจเลือดจากโรงพยาบาลใกล้บ้านผู้ป่วย จากนั้นให้ส่งผลตรวจมาทางช่องทางไลน์แอพพลิเคชันส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ของโรงพยาล หรือพยาบาล หลังจากนั้นแพทย์จะดำเนินการทำการวินิจฉัยก่อนเข้าการรักษาตามแผนการรักษา ซึ่งแผนการรักษา แพทย์และเภสัชกรได้ทำการแจ้งให้ผู้ป่วยทราบล่วงหน้าเรียบร้อย รวมทั้งสูตรยาเคมีบำบัด ระยะเวลาการรักษาและการปฏิบัติ กับผู้ป่วยมะเร็ง จากขั้นตอนดังกล่าวส่งผลให้การรักษาของทางโรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี เกิดความไม่คล่องตัว จากประเด็นดังต่อไปนี้ ประการแรกข้อมูลผลเลือดมักจะไม่ถูกบันทึกลงฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ประการที่สองการนัดหมายทำเคมีบำบัดมีความคลาดเคลื่อนกับผู้ป่วยที่ต้องการเลื่อนนัดหรือผลเลือดไม่ผ่าน จากการวินิจฉัยของแพทย์ ประการที่สามการบันทึกผลการรักษาไม่ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบยากต่อการวินิจฉัยถึงผลการรักษาของผู้ป่วย จากปัญหาดังกล่าวส่งผลให้การวิจัยและพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยเกิดได้อย่างล่าช้า ผู้วิจัยจึงทำการพัฒนาโปรแกรมสำหรับบริหารจัดการผู้ป่วยมะเร็งและติดตามผู้ป่วยมะเร็ง โดยพัฒนาในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชัน (web-based application) และแอปพลิเคชันภายในแพลตฟอร์มไลน์ LINE LIFF (LINE Front-end Framework) สำหรับผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วย โดยระบบถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก กล่าวคือ ระบบเว็บแอปพลิเคชัน ถูกใช้งานโดยบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อติดตาม นัดหมาย และทำการเก็บรวบรวมข้อมูลเของผู้ป่วยที่เข้ารักษาของแผนกเคมีบำบัด โรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี ส่วนระบบโมบายแอปพลิเคชัน สำหรับผู้ป่วยเพื่อทำส่งผลการตรวจเลือดให้กับแพทย์ แสดงตารางการนัดหมายเพื่อทำการรักษาของแผนกเคมีบำบัด และการบันทึกอาการระหว่างและหลังการรับเคมีบำบัด

นวัตกรรมอื่น ๆ

การพัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพจากแป้งข้าวกล้องงอกและแป้งกล้วยน้ำว้าโดยใช้กระบวนการเอ็กซ์ทรูชัน

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

การพัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพจากแป้งข้าวกล้องงอกและแป้งกล้วยน้ำว้าโดยใช้กระบวนการเอ็กซ์ทรูชัน

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสูตรและกระบวนการผลิตขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าวกล้องงอกและแป้งกล้วยน้ำว้าโดยใช้กระบวนการเอ็กซ์ทรูชัน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าสามารถนำแป้งข้าวกล้องงอกและแป้งกล้วยน้ำว้ามาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตขนมขบเคี้ยวด้วยกระบวนการเอ็กซ์ทรูชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสัดส่วนของแป้งในสูตรและสภาวะการผลิต เช่น ความชื้นของวัตถุดิบ อุณหภูมิของบาร์เรล และความเร็วของสกรู ส่งผลต่อคุณค่าทางโภชนาการ ปริมาณสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของผลิตภัณฑ์อย่างมีนัยสำคัญ

การปรับปรุงการผลิตกรดแกมมาอะมิโนบิวทิริกในน้ำสับปะรดหมัก

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

การปรับปรุงการผลิตกรดแกมมาอะมิโนบิวทิริกในน้ำสับปะรดหมัก

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตกรดแกมมา-อะมิโนบิวทิริก (GABA) ในน้ำสับปะรดหมักโดยใช้โพรไบโอติกและแบคทีเรียกรดอะซิติก (AAB) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีศักยภาพในการเพิ่มปริมาณ GABA กระบวนการนี้ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของน้ำหมักสับปะรด และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตสับปะรดไทยที่มีราคาต่ำมาเป็นเวลานาน การศึกษานี้มุ่งเน้นไปที่การหาสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการผลิต GABA โดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณน้ำตาล ค่า pH ระยะเวลาการหมัก และความเข้มข้นของ L-glutamate รวมถึงการเพาะเลี้ยงร่วมกันระหว่างโพรไบโอติกและแบคทีเรียกรดอะซิติก การทดลองดำเนินการโดยใช้เทคนิคการหมักแบบควบคุม และวิเคราะห์องค์ประกอบทางชีวภาพของน้ำหมักโดยใช้เครื่องมือขั้นสูง เช่น HPLC และ GC-MS ผลการวิจัยคาดว่าจะนำไปสู่การพัฒนาสูตรและกระบวนการผลิตเครื่องดื่มน้ำสับปะรดที่มีปริมาณ GABA สูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยลดความเครียด ส่งเสริมการทำงานของสมอง และเพิ่มศักยภาพของอุตสาหกรรมอาหารหมักในประเทศไทย

ผลของการทำ seed priming ด้วยสารสกัดจากสาหร่าย Chaetomorpha sp. ต่อความงอกและการเจริญเติบโตของต้นกล้าพริก

คณะเทคโนโลยีการเกษตร

ผลของการทำ seed priming ด้วยสารสกัดจากสาหร่าย Chaetomorpha sp. ต่อความงอกและการเจริญเติบโตของต้นกล้าพริก

การศึกษาผลของการทำ seed priming ด้วยสารสกัดจากสาหร่าย Chaetomorpha sp. ต่อความงอกและการเจริญเติบโตของต้นกล้าพริก มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของความเข้มข้นของสารสกัดจากสาหร่ายต่อการงอกและการเจริญเติบโตของต้นกล้าพริก การทดลองประกอบด้วยการแช่เมล็ดพริกในสารละลายสกัดจากสาหร่าย Chaetomorpha sp. ที่ระดับความเข้มข้นต่างๆ เปรียบเทียบกับชุดควบคุม วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ จำนวน 4 ซ้ำ ผลการศึกษาพบว่า การทำ seed priming ด้วยสารสกัดจากสาหร่ายมีแนวโน้มส่งเสริมการงอกของเมล็ดพริก โดยพบว่าเมล็ดที่ผ่านการ priming ด้วยสารสกัดจากสาหร่ายมีเปอร์เซ็นต์ความงอก ดัชนีการงอก และความเร็วในการงอกสูงกว่าชุดควบคุม นอกจากนี้ยังพบว่าต้นกล้าที่ได้มีการพัฒนาของรากและลำต้นที่แข็งแรงกว่าชุดควบคุม การศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสารสกัดจากสาหร่าย Chaetomorpha sp. ในการเพิ่มคุณภาพของเมล็ดพันธุ์พริก ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการผลิตต้นกล้าพริกคุณภาพสูงต่อไป