KMITL Expo 2026 LogoKMITL 66th Anniversary Logo

การพัฒนาฟิล์มรับประทานได้ที่บรรจุสารสกัดสมอไทยเพื่อป้องกันแผลในช่องปาก

รายละเอียด

การศึกษานี้มุ่งเน้นการพัฒนาฟิล์มรับประทานได้ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากสมอไทย (Terminalia chebula Retz) เพื่อใช้ในการรักษาแผลในช่องปาก ฟิล์มชนิดนี้ถูกออกแบบให้ละลายได้ในช่องปากโดยไม่ต้องกลืนหรือเคี้ยว ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลร้อนในหรืออาการอักเสบในช่องปาก สารสกัดจากสมอไทยมีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาหลายประการ เช่น ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และฤทธิ์ต้านการอักเสบ

วัตถุประสงค์

ฟิล์มรับประทานมักมีส่วนประกอบของสารต้านจุลินทรีย์หลากหลายชนิด รวมถึงกรดอินทรีย์ (Brink และคณะ, 2019) แบคทีเรียซิน (Ge และคณะ, 2017) น้ำมันหอมระเหย (Lee และคณะ, 2019; Evangelho และคณะ, 2019) และสารสกัด (Wai และคณะ, 2019) สารเหล่านี้จะถูกปล่อยออกมาในอาหารระหว่างการ จัดเก็บและช่วยเพิ่มความปลอดภัยของอาหาร สมอไทย (Terminalia chebula) ถูกนำมาใช้เป็นยาแผนโบราณเป็นเวลานาน มีการนำมาใช้กันอย่าง แพร่หลายใน การแพทย์พื้นบ้านและจัดอยู่ในตำรายาไทย ได้แก่ มหาพิกัดตรีผลา พิกัดตรีสมอ และพิกัดจตุ ผลาธิ มีสรรพคุณรักษาโรคต่างๆ เช่น ขับลม บิด ยาบำรุงตับ ย่อยอาหาร ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ปวด ยาถ่าย พยาธิ เป็นต้น ซึ่งพบสาร ออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่สำคัญได้แก่ Arachidic acid Hebulanin Chebupentol Daucosterol Punicalagin Quercetin Sitosterol Tannin สารประกอบเหล่านี้มีสรรพคุณทางเภสัชวิทยา หลายประการ ยกตัวอย่างเช่น มีฤทธิ์ในการยับยั้งแบคทีเรีย ฤทธิ์ยับยั้งเชื้อรา ฤทธิ์ต้านสารก่อมะเร็ง ฤทธิ์ต้าน อนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านเบาหวาน ฤทธิ์ต้านการอักเสบ และฤทธิ์ต้านเชื้อเอชไอวี (Bulbul และคณะ, 2022) สาเหตุของแผลร้อนในหรือแผลในปาก อาจเกิดจากการแพ้อาหาร หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติ บาง รายเกิดจากการขาดสารอาหาร เช่น วิตามินบี 12 ขาดธาตุเหล็ก ขาดวิตามินซี นอกจากนี้ก็อาจเกิดจากโรค ลำไส้อักเสบ ความเครียด กัดโดนเยื่อบุปาก เคี้ยวของแข็ง แปรงฟันผิดวิธี รับประทานอาหารเผ็ดร้อน สูบบุหรี่ หรือฟันปลอมที่สวมไม่พอดี ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโซเดียมลอรีลซัลเฟต ก็อาจทำให้เกิดแผลในปากได้ (สมตระกูล และคณะ, 2017) ซึ่งการใช้สารสกัดจากสมอไทยที่มีสรรพคุณมากมายเติมลงไปในแผ่นฟิล์มที่บริโภคได้ เป็นวิธีการรักษา แผลในปากแบบใหม่เพื่อเยียวยาแผลในปากและเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่ชอบใช้ยาทาแผล

นวัตกรรมอื่น ๆ

ประกวดการออกแบบ BAM property Design Contest #9

คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ

ประกวดการออกแบบ BAM property Design Contest #9

ผลงานออกแบบอาคารเชิงพาณิชย์ Community mall และ โฮมออฟฟิศ บนพื้ทที่กว่า 12 ไร่ ที่มีแนวความคิดที่ต้องการดึงผู้คนกลับมายังที่ดินที่ถูกทอดทิ้ง โดยผสานการสะท้อนวิถีชีวิตคนทำงาน เข้ากับการวางผังที่คำนึงถึงที่ว่างทางธรรมชาติได้อย่างน่าสนใจ เกิดบรรยากาศที่ที่กระตุ้นโมเดลทางธุรกิจ และพัฒนาที่ดินได้อย่างมีศักยภาพ

การประเมินโปรไบโอจีโนมิกส์ของความสามารถของโปรไบโอติกเอนเทอโรคอคคัส แลคติก RRS4 ที่มีศักยภาพที่แยกได้จากหัวไช้เท้าดองในการรักษาเอนเทอโรคอคคัสที่ดื้อต่อแวนโคไมซิน

คณะวิทยาศาสตร์

การประเมินโปรไบโอจีโนมิกส์ของความสามารถของโปรไบโอติกเอนเทอโรคอคคัส แลคติก RRS4 ที่มีศักยภาพที่แยกได้จากหัวไช้เท้าดองในการรักษาเอนเทอโรคอคคัสที่ดื้อต่อแวนโคไมซิน

เนื่องจากสายพันธุ์ Enterococcus lactis มีความใกล้ชิดกับ E. faecium และ ด้านคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์และมีผลทางโปรไบโอติก ในการศึกษานี้ สายพันธุ์ RRS4 ถูกแยกจากหัวไช้เท้าดอง (Raphanus sativus Linn.) และทำการระบุชนิดโดยอาศัยลักษณะทางฟีโนไทป์และจีโนไทป์ สายพันธุ์ RRS4 แสดงความสามารถในการอยู่รอดในสภาวะแวดล้อมที่มี NaCl 2-8% ค่า pH ระหว่าง 4 ถึง 9 และอุณหภูมิระหว่าง 4°C ถึง 45°C การวิเคราะห์จีโนมแบบครอบคลุมยืนยันว่า RRS4 เป็น E. lactis นอกจากนี้ E. lactis RRS4 ยังแสดงฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ E. faecalis JCM 5803 ที่ดื้อต่อวานโคมัยซิน การประเมินความปลอดภัยโดยใช้วิธี in silico รวมถึงการวิเคราะห์ด้วย KEGG annotation พบว่า E. lactis RRS4 ไม่มียีนที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของเชื้อหรือยีนที่ไม่พึงประสงค์ การวิเคราะห์ด้วย VirulenceFinder พบว่ายีนที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของเชื้อมีความสอดคล้องกับยีนใน E. lactis สามสายพันธุ์ และ E. faecium สี่สายพันธุ์ แม้ว่าจะพบว่ายีนต้านทานยาปฏิชีวนะยังคงมีอยู่ แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับลักษณะการก่อโรคที่สำคัญ นอกจากนี้ การประเมินความปลอดภัยยังชี้ให้เห็นว่า E. lactis RRS4 มีความปลอดภัยโดยทั่วไป แม้ว่าจะมียีนที่เกี่ยวข้องกับการดื้อยาปฏิชีวนะก็ตาม สุดท้ายนี้ เราขอเสนอแนวทางในการประเมินความปลอดภัยของสายพันธุ์จุลินทรีย์โดยใช้การวิเคราะห์จีโนมทั้งหมด ซึ่งผลการศึกษานี้เป็นก้าวสำคัญในการวิจัยโปรไบโอติก

เสื้อระบายความร้อนที่มีระบบแลกเปลี่ยนความร้อนจากการไหลแบบสองเฟส

วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

เสื้อระบายความร้อนที่มีระบบแลกเปลี่ยนความร้อนจากการไหลแบบสองเฟส

เสื้อระบายความร้อนที่มีระบบแลกเปลี่ยนความร้อนจากการไหลแบบสองเฟส เป็นนวัตกรรมใหม่ ถูกออกแบบ เพื่อระบายความร้อนให้กับนักดับเพลิง, นักแข่งรถ และ ผู้ที่ต้องสวมใส่ชุด PPE (Personal Protective Equipment) ในการทำงาน ระบบสามารถทำความเย็น ในระดับ 18-20 องศาเซลเซียส ได้อย่างต่อเนื่อง และมีกลไกการฉีดแก๊สเข้าไปในของเหลวเพื่อเพิ่มความสามารถในการถ่ายเทความร้อน