โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเว็ปแอปพลิเคชันสำหรับการเบิกจ่ายเครื่องมือ เพื่อลดปัญหาที่เกิดจากการใช้งานโปรแกรม Excel ซึ่งไฟล์ตัวแรกนั้นคัดลอกมาจาก SQL ที่มีอยู่แล้ว และคัดลอกต่อๆกันมา ส่งผลให้ต้องใช้พื้นจำนวนมากและไฟล์ Excel นั้นไม่สามารถเปิดใช้งานพร้อมกันได้ จึงต้องพัฒนาเว็ปแอปพลิเคชันเพื่อเชื่อม SQL โดยตรงเพื่อลดปัญหาที่เกิดจะการใช้ไฟล์ Excel
ปัจจุบัน การจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเครื่องมือภายในองค์กรยังคงพึ่งพาโปรแกรม Excel เป็นหลัก โดยมีการใช้ไฟล์ Excel อยู่ 3 ไฟล์หลัก ได้แก่ Master, Request, และ Issue ข้อมูลในไฟล์เหล่านี้ถูกคัดลอกและนำไปใช้ต่อๆ กันมาหลายครั้ง ทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่และซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาที่เกิดจากการใช้ไฟล์ Excel คือ ไฟล์ไม่สามารถรองรับการใช้งานพร้อมกันได้หลายคน ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร นอกจากนี้ ไฟล์ Master ที่เป็น Excel ยังเป็นการคัดลอกมาจากข้อมูลในฐานข้อมูล SQL ที่มีอยู่แล้ว ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความยุ่งยากในการจัดการข้อมูล ด้วยเหตุนี้ ส่วนกลางจึงมีความต้องการในการพัฒนาเว็ปแอปพลิเคชันที่สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล SQL โดยตรง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและจัดการกับข้อมูลการเบิกจ่ายเครื่องมือได้อย่างง่ายดายและสะดวกผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาที่เกิดจากการใช้งานไฟล์ Excel ไม่ว่าจะเป็นขนาดไฟล์ที่ใหญ่เกินไป การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่พร้อมกัน และความซ้ำซ้อนของข้อมูลในไฟล์ Excel การพัฒนาเว็ปแอปพลิเคชันนี้จะช่วยลดการใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล ลดความซับซ้อนในการใช้งาน และเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูลจากหลายผู้ใช้งานพร้อมกัน ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการทำงานภายในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้การจัดการข้อมูลการเบิกจ่ายเครื่องมือสามารถทำได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วกว่าเดิม
คณะวิศวกรรมศาสตร์
โครงการปริญญานิพนธ์นี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาหาสภาวะที่เหมาะสมในการผลิตน้ำอัญชันเข้มข้นด้วยกระบวนการระเหยสุญญากาศ โดยเพื่อรักษาคุณภาพของสารสำคัญในดอกอัญชัน เช่น แอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารสีธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง โดยใช้วิธีการวางแผนการทดลองแบบBox-Behnken Design ซึ่งเป็นวิธีทางสถิติที่ช่วยในการวิเคราะห์ปัจจัยหลายตัว การศึกษานี้เน้นการพิจารณาอัตราส่วนของดอกอัญชันแห้งต่อน้ำ อุณหภูมิการสกัด และอุณหภูมิการระเหย ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการคงคุณภาพของสารสำคัญ สี กลิ่น และรสชาติ ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า การใช้อัตราส่วนดอกอัญชันแห้งต่อน้ำที่ 1:15 อุณหภูมิการสกัด 60 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิการระเหย 40 องศาเซลเซียส ภายใต้ความดันต่ำสามารถลดการสูญเสียสารสำคัญและรักษาคุณสมบัติของน้ำอัญชันเข้มข้นได้ดีที่สุด ข้อมูลที่ได้จากงานวิจัยนี้สามารถใช้เป็นแนวทางในการพัฒนากระบวนการผลิตน้ำอัญชันเข้มข้นในระดับอุตสาหกรรมและเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่จากดอกอัญชัน
คณะเทคโนโลยีการเกษตร
ศึกษาผลของสารก่อกลายพันธุ์ ethyl methane sulfonate (EMS) และสารโคลชิซินในการชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเฐญจมาศในสภาพปลอดเชื้อ โดยทำการแช่เนื้อเยื้อเบญจมาศในสารละลายที่รดับความเข้มข้นต่างๆในระยะเวลาที่แตกต่างกัน พบว่า ชิ้นส่วนเริ่มต้นที่แช่สารละลาย EMS ส่งผลต่อลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งสีดอกและรูปทรงของดอก ส่วนสารละลายโคลชิซินส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของจำนวนโครโมโซม และเพิ่มขนาดของต้นและดอก และตรวจสอบด้วยเครื่องหมายโมเลกุลสามารถแยกความแตกต่าง การใช้สิ่งก่อกลายพันธุ์ร่วมกับการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสามารถชักนำให้เกิดลักษณะใหม่ นำไปสู่การพัฒนาพันธุ์เพื่อเป็นไม้ดอกการค้าได้
วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและพัฒนาระบบขับเคลื่อนต่อพ่วงอุปกรณ์การเกษตรโดยใช้เทคโนโลยี RFID พร้อมทั้งศึกษาประสิทธิภาพการเคลื่อนที่บนพื้นผิวที่แตกต่างกัน ได้แก่ พื้นปูนคอนกรีตและพื้นสนามหญ้า การทดลองมุ่งเน้นการตรวจสอบระยะการอ่านค่าแท็ก (Tag) ภายใต้ระดับกำลังส่ง 20 dBm, 23 dBm และ 26 dBm รวมถึงผลกระทบของมุมเสาอากาศต่อประสิทธิภาพการตรวจจับ นอกจากนี้ ระบบถูกทดสอบในเส้นทางตรง เลี้ยวซ้าย และเลี้ยวขวา ที่ระยะ 2 เมตร, 4 เมตร และ 6 เมตร ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนที่ในเส้นทางตรงบนพื้นปูนคอนกรีตที่ระยะ 4 เมตรให้ค่าความเร็วเฉลี่ยสูงสุดที่ 0.4736 m/s และมุมองศาเฉลี่ย 91.6° ขณะที่พื้นสนามหญ้าให้ค่าความเร็วเฉลี่ย 0.4483 m/s และมุมองศาเฉลี่ย 91.1° ในกรณีของเส้นทางเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา พบว่าการเคลื่อนที่บนพื้นปูนคอนกรีตมีค่าความเร็วเฉลี่ยสูงกว่าพื้นสนามหญ้า โดยเฉพาะที่ระยะ 4 เมตรซึ่งพบค่ามุมองศาที่แตกต่างกัน การศึกษานี้ช่วยให้เข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของรถขับเคลื่อนและเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในอนาคต