KMITL Expo 2026 LogoKMITL 66th Anniversary Logo

การจำแนกและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าร้านคาเฟ่

รายละเอียด

โลกธุรกิจในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง การทำความเข้าใจลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สามารถทำให้องค์กรกำหนดความสำเร็จได้ การตลาดที่มีประสิทธิภาพไม่ใช่เพียงแค่การเสนอสินค้า โปรโมชั่น หรือบริการที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องมีกลยุทธ์ในการเข้าถึงและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้า การจัดกลุ่มลูกค้าเป็นหนึ่งในวิธีการที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเจาะลึกความต้องการและพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้อย่างชัดเจน จากการปฎิบัติสหกิจศึกษาในครั้งนี้ ผู้ปฏิบัติได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานใน ทีมธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence - BI) กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ได้ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลของกลุ่มลูกค้าของร้านกาแฟพันธุ์ไทยเกี่ยวกับลักษณะของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านกาแฟพันธุ์ไทย การปฏิบัติงานสหกิจครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการที่จะเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาซื้อเครื่องดื่มประเภทกาแฟและชาในร้านกาแฟพันธุ์ไทย โดยการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าที่มีการจัดเก็บไว้ ซึ่งผลจากการดำเนินได้มีการจัดกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อเครื่องดื่มประเภทกาแฟและชา โดยการใช้ Naive Bayes, Random Forest, Deep Learning เปรียบเทียบเทคนิคที่มีความแม่นยำและเหมาะสม เพื่อนำข้อมูลที่วิเคราะห์ได้ไปใช้ประโยชน์ต่อไป

วัตถุประสงค์

กาแฟและชา เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งชาและกาแฟมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ใช้ดื่มเพื่อผ่อนคลาย ชาเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้ผ่อนคลายจากการทำกิจกรรมมาทั้งวัน ในขณะเดียวกัน กาแฟเป็นตัวช่วยเพิ่มพลังงาน และพลังสมองก่อนที่จะทำกิจวัตรใดๆ อีกทั้งยังเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ดังนั้น การมองหาร้านกาแฟที่มีเครื่องดื่มที่เข้มข้น สินค้าที่หลากหลาย ยังต้องมีพื้นที่สังสรรค์ พบประผู้คน ซึ่งในนั้นก็คือ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟ ที่มีทั้งเครื่องดื่ม ขนมปัง เบเกอรี่ และอาหารหลากหลาย ทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และลักษณะการซื้อเครื่องดื่มและสินค้าที่แตกต่างกัน จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ทีมธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence - BI) กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มีความสนใจที่จะจัดกลุ่มลูกค้าของร้านกาแฟพันธุ์ไทย ข้าพเจ้าจึงมีแนวคิดที่จะจำแนกและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มประเภทกาแฟเป็นประจำ ลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มประเภทชา และลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มทั้งชาและกาแฟ โดยการใช้ Naive Bayes, Random Forest, Deep Learning เปรียบเทียบเทคนิค ที่มีความแม่นยำและเหมาะสม เพื่อนำข้อมูลที่วิเคราะห์ได้ไปใช้ประโยชน์ต่อไป

นวัตกรรมอื่น ๆ

โครงการออกแบบเว็บไซต์ให้ความรู้เรื่อง ความตายกับจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์

คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ

โครงการออกแบบเว็บไซต์ให้ความรู้เรื่อง ความตายกับจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์

เมื่อกล่าวถึงความตายในความหมายของคนทั่วไป มักมีมุมมองและท่าทีต่อความตายว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นเรื่องอัปมงคล แต่หารู้ไม่ว่าจุดจบหรือความตายของใครบางคน ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงซึ่งส่งผลกระทบอันดีต่อความคิด วิถีชีวิต และทัศนคติของผู้คนโดยรอบ อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเรียนวัย 13-18 ปี การเข้าถึงข้อมูลและการทำความเข้าใจเรื่องนี้ยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทาย ข้อมูลส่วนใหญ่ที่มีอยู่มักจะอยู่ในรูปแบบที่ซับซ้อนหรือยากต่อการทำความเข้าใจสำหรับเยาวชน นอกจากนี้ สื่อการสอนในโรงเรียนอาจยังขาดการนำเสนอที่สร้างสรรค์และดึงดูดใจ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ความสนใจของนักเรียนในประเด็นดังกล่าวลดลง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงออกแบบเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งข้อมูลที่มีเนื้อหาเข้าถึงได้ง่าย สร้างสรรค์ ส่งเสริมให้เยาวชนมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของการกระทำและความตายของใครบางคนที่มีต่อโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเขาในการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีในอนาคต

นวัตกรรมเครื่องยนต์สเตอร์ลิงพลังงานสะอาด

คณะวิศวกรรมศาสตร์

นวัตกรรมเครื่องยนต์สเตอร์ลิงพลังงานสะอาด

เนื่องจากความต้องการพลังงานที่มีมากขึ้น แต่เชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักมีอยู่อย่างจำกัดและเป็นสาเหตุหนึ่งของมลพิษและภาวะโลกร้อน ดังนั้นพลังงานทางเลือกจึงเป็นกุญแจสำคัญเพื่อความยั่งยืนด้านพลังงาน ประเทศไทยมีศักยภาพของพลังงานชีวมวลจากเกษตรกรรม ดังนั้นการพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้าที่มลพิษต่ำและสามารถใช้ได้กับแหล่งพลังงานทดแทนจึงจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเครื่องยนต์สเตอร์ลิงซึ่งมีโครงสร้างชิ้นส่วนไม่ซับซ้อน ปราศจากการสันดาปภายในเครื่องยนต์จึงเป็นเครื่องยนต์ที่มีศักยภาพผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อ งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นพัฒนาออกแบบและสร้างต้นแบบเครื่องยนต์สเตอร์ลิงร่วมกับแหล่งพลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาดเพื่อผลิตไฟฟ้าและสาธิตการทำงานจริง เกิดองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีเครื่องยนต์ผลิตไฟฟ้าปราศจากมลพิษในประเทศ ตลอดจนสามารถขยายผลนำไปใช้ประโยชน์กับคนไทย

เทคโนโลยีการผลิตไอน้ำสมุนไพร สำหรับการป้องกันกำจัดแมลงและไรศัตรูพืชอย่างปลอดภัย

คณะเทคโนโลยีการเกษตร

เทคโนโลยีการผลิตไอน้ำสมุนไพร สำหรับการป้องกันกำจัดแมลงและไรศัตรูพืชอย่างปลอดภัย

การใช้สารสกัดจากพืชสมุนไพรด้วยเทคโนโลยี “ไอน้ำสมุนไพร” ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาจากความรู้ของคนในชุมชนบ้านรางยอม ตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับคณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ภายใต้แนวคิดในการพัฒนาชุมชนโดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงต้องการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี “กระบวนการผลิตไอน้ำสมุนไพร” ให้กับชุมชนที่ด้อยโอกาสทางเทคโนโลยี เป็นการพัฒนาทักษะอาชีพของเกษตรในรูปแบบของกลุ่มเกษตร ให้เกิดความเท่าเทียมทางการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เป็นอันตรายต่อเกษตรกรและผู้บริโภค รวมทั้งสามารถลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตลงได้ หลักการทำงานของชุดกลั่นไอน้ำสมุนไพร เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการผลิต “ไอน้ำสมุนไพร” ตามวิธีการของปราชญ์ชุมชนบ้านรางยอม อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี กับองค์ความรู้ด้านการใช้น้ำมันหอมระเหยจากพืชในการป้องกันกำจัดแมลงและไรพืชของนักวิจัย คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สามารถอธิบายรายละเอียดของเทคโนโลยีการผลิตได้ดังต่อไปนี้ การกลั่น “ไอน้ำสมุนไพร” เป็นหลักการกลั่นน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพรโดยวิธีการกลั่นด้วยน้ำ (Water distillation) ทั่วไป เพียงแต่ขั้นตอนสุดท้ายหลังจากการกลั่นแล้วนั้น ได้น้ำและน้ำมันหอมระเหยจากพืชอยู่รวมกัน ซึ่งไม่มีขั้นตอนการแยกออกจากกัน แต่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที เรียกของผสมนี้ว่า “ไอน้ำสมุนไพร” วิธีการผลิตไอน้ำสมุนไพรเพื่อใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงและไรศัตรูพืช ดังนี้ 1. การเตรียมพืชสมุนไพรรวม 50 กิโลกรัม (ตามสูตรของแต่ละชุมชน ซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามชนิดของแมลงและไรศัตรูพืช และชนิดของพืชปลูก) 2. นำพืชสมุนไพรตามสูตรมาสับให้ละเอียด ผสมกับน้ำสะอาด 50 ลิตร ใส่ในถังกลั่นขนาด 200 ลิตร คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝา รอจนน้ำเดือดเป็นไอออกมา ไอน้ำจะพาน้ำมันหอมระเหยจากพืชออกมาทางท่อทางออกของไอน้ำ ท่อนั้นผ่านไปยังถังควบแน่น และถูกควบแน่นเป็นของเหลวไหลออกมา สารที่ได้เรียกว่า “ไอน้ำสมุนไพร” ควบคุมคุณภาพการกลั่นโดยให้ได้ไอน้ำสมุนไพร 30 ลิตร (ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง) จึงหยุดกระบวนการกลั่น 3. ผสมไอน้ำสมุนไพรที่ได้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพิ่มสารช่วยผสมระหว่างน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพรและน้ำด้วยสารช่วยผสม เช่น ปิโตรเลียมออยล์ ไวท์ออยล์ สารทวีน หรือสารจับใบ อัตรา 5 ซีซี ต่อ ลิตร เขย่าให้เข้ากัน บรรจุใส่ขวดพลาสติกทึบแสง 4. อัตราการใช้และวิธีการใช้ไอน้ำสมุนไพรในการป้องกันกำจัดแมลงและไรศัตรูพืช - เป็นสารไล่ ใช้ในอัตรา 80-100 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก ๆ 15 วัน สามารถป้องกันการเข้าทำลายของแมลงและไรศัตรูพืชได้ - เป็นสารฆ่า ใช้ในอัตรา 200-400 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก ๆ 3-4 วัน อย่างต่อเนื่อง สามารถฆ่าแมลงและไรศัตรูพืชได้"