งานวิจัยนี้นำเสนอวิธีการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อสร้างคำบรรยายอัตโนมัติจากการแบ่งส่วนความเสียหายของชิ้นส่วนรถยนต์ โดยการวิเคราะห์จากข้อมูลภาพของรถยนต์โดยใช้โครงสร้างแบบโครงคร่าวแบบรวม (Unified Framework) เพื่อช่วยให้สามารถระบุตำแหน่งและอธิบายความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยการพัฒนาประยุกต์จากพื้นฐานงานวิจัยที่มีชื่อว่า ”GRiT: A Generative Region-to-text Transformer for Object Understanding” ที่ผู้วิจัยได้ทำการพัฒนาและปรับแต่งให้เหมาะสมกับการวิเคราะห์ภาพที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์โดยเฉพาะ การปรับปรุงนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำให้แบบจำลองสามารถสร้างคำบรรยายสำหรับบริเวณต่างๆ ของรถยนต์ได้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่บริเวณที่ได้รับความเสียหายไปจนถึงการระบุส่วนประกอบต่างๆ บนรถยนต์ ทางผู้วิจัยได้เน้นการพัฒนาเทคนิคการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อสร้างคำบรรยายอัตโนมัติและการแบ่งส่วนความเสียหายในการวิเคราะห์ความเสียหายของรถยนต์ เพื่อช่วยให้สามารถระบุตำแหน่งและอธิบายความเสียหายที่เกิดขึ้นกับยานยนต์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มความรวดเร็ว ลดภาระของผู้เชี่ยวชาญในการประเมินความเสียหาย โดยวิธีการเเบบดั้งเดิมอาศัยการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน เพื่อลดปัญหานี้ ทางเราเสนอให้ใช้ประโยชน์จากการสร้างข้อมูลเพื่อฝึกฝนการสร้างคำบรรยายาย เเละ แบ่งส่วนความเสียหายอย่างอัตโนมัติ โดยใช้ โครงสร้างแบบโครงคร่าวแบบรวม ซึ่งการพัฒนานี้เป็นการขยายความสามารถของแบบจำลองให้สามารถประยุกต์ใช้ได้กว้างขวางมากขึ้นในภาคส่วนของยานยนต์ ทางผู้วิจัยได้สร้างชุดข้อมูลใหม่จาก CarDD ซึ่งเป็นชุดข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการตรวจจับความเสียหายของรถยนต์ ในชุดข้อมูลนี้มีการติดป้ายกำกับความเสียหายบนรถยนต์ และผู้วิจัยได้นำข้อมูลชุดดังกล่าวมาเข้าสู่แบบจำลองเพื่อแยกส่วนของรถยนต์เป็นชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อจัดทำการติดป้ายกำกับคำอธิบายที่แม่นยำสำหรับแต่ละชิ้นส่วนและหมวดหมู่ความเสียหาย ผลลัพธ์เบื้องต้นจากเเบบจำลอง แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างคำบรรยายอัตโนมัติและการแบ่งส่วนความเสียหายในการวิเคราะห์ความเสียหายของรถยนต์ได้อยู่ในเกณฑ์พอใช้ ด้วยผลลัพธ์นี้ เเบบจำลองนี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะถูกพัฒนาต่อยอดในอนาคต การพัฒนาต่อยอดนี้ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นที่การเพิ่มประสิทธิภาพในการแบ่งส่วนความเสียหายและสร้างคำบรรยายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับปรุงความสามารถในการตอบสนองต่อความหลากหลายของความเสียหายที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวและส่วนต่างๆ ของรถยนต์ ซึ่งจะช่วยให้ระบบสามารถประยุกต์ใช้ได้กับยานยนต์หลากหลายรูปแบบและสภาพความเสียหายที่แตกต่างกันมากขึ้นในอนาคต
ในปัจจุบัน การประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์เป็นงานที่ซับซ้อนและต้องการความเชี่ยวชาญจากผู้ประเมินที่มีประสบการณ์ เนื่องจากลักษณะความเสียหายแต่ละกรณีมีความแตกต่างกัน โดยต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ชนิดของความเสียหายและตำแหน่งที่ได้รับผลกระทบ การขาดมาตรฐานการประเมินที่ชัดเจนและความแตกต่างในวิธีการของผู้เชี่ยวชาญแต่ละคน อาจนำไปสู่ความไม่สอดคล้องในการตัดสินใจ ทำให้เกิดความล่าช้าในการซ่อมแซมและการเบิกจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่ขาดมาตรฐาน ซึ่งกลายเป็นความท้าทายสำคัญที่ภาคประกันภัยต้องเผชิญ ในปี 2021 สหรัฐอเมริกามีรายงานอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงถึง 1,767,116 ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้น 13.3% จากปี 2011 แนวโน้มนี้สอดคล้องกับการเคลมค่าสินไหมที่เพิ่มขึ้น9%ในปี2022เมื่อเทียบกับปี2021ซึ่งเป็นผลจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงขึ้นและภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้ต้นทุนของภาคประกันภัยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การเพิ่มขึ้นของจำนวนอุบัติเหตุและต้นทุนการซ่อมแซมได้นำไปสู่ความท้าทายหลักสองประการประการแรกคือ ความรวดเร็วและความแม่นยำในการประเมินความเสียหาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการซ่อมแซมและการเบิกค่าสินไหม การประเมินด้วยมนุษย์อาจเกิดความล่าช้าและข้อผิดพลาด ทำให้เกิดความไม่พึงพอใจในด้านบริการของผู้เอาประกันภัย ประการที่สองคือการขาดมาตรฐานการประเมินความเสียหายที่ชัดเจนวิธีการประเมินของผู้เชี่ยวชาญที่แตกต่างกันอาจส่งผลให้เกิดความไม่สอดคล้องในการประเมินราคาและข้อเสนอแนะสำหรับการซ่อมแซมนอกจากนี้การขาดมาตรฐานกลางยังอาจก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมระหว่างบริษัทประกันและผู้เอาประกันภัย เนื่องจากการตีความขอบเขตความเสียหายที่แตกต่างกัน เพื่อแก้ปัญหานี้ แนวคิด การแบ่งส่วนความเสียหาย (Damage Segmentation) ได้ถูกเสนอให้เป็นเครื่องมือในการระบุและจำแนกความเสียหายตามส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ วิธีนี้ช่วยให้เกิดมาตรฐานในการประเมินและเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการประเมิน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับการแบ่งส่วนความเสียหายของรถยนต์ มักเน้นเพียงการแยกแยะความเสียหายออกจากพื้นที่โดยรอบ แต่ไม่ได้ระบุชิ้นส่วนที่เสียหายอย่างชัดเจน ขณะที่งานวิจัยบางชิ้นมุ่งเน้นแค่การแบ่งส่วนชิ้นส่วนของรถยนต์แยกกันเท่านั้น จากการศึกษาข้อมูลในปัจจุบัน ไม่พบงานวิจัยใดที่พยายามผสานเทคนิคการแบ่งส่วนความเสียหายร่วมกับการแบ่งส่วนชิ้นส่วนของรถยนต์ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ครอบคลุม ด้วยเหตุนี้ งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นการพัฒนา คำบรรยายอัตโนมัติ (Image Captioning) ร่วมกับการแบ่งส่วนความเสียหายซึ่งไม่เพียงแค่ระบุประเภทความเสียหาย แต่ยังสามารถระบุชิ้นส่วนที่ได้รับความเสียหายจากภาพถ่ายปัจจุบันงานวิจัยเกี่ยวกับคำบรรยายอัตโนมัติ ส่วนใหญ่เน้นการบรรยายภาพในเชิงทั่วไป เช่น การระบุวัตถุหรือกิจกรรมภายในภาพ แม้ว่าจะมีงานที่บูรณาการระหว่างการแบ่งส่วนผนวกเข้ากับคำบรรยาย แต่ยังไม่มีงานใดที่เจาะจงบรรยายภาพเพื่อระบุความเสียหายของรถยนต์โดยเฉพาะ วิธีการนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในการประเมินความเสียหายของยานพาหนะ ลดข้อผิดพลาดจากการประเมินด้วยมนุษย์ และเพิ่มความรวดเร็วในการประเมินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คณะเทคโนโลยีการเกษตร
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพริกพันธุ์การค้าของไทยให้ต้านทานต่อโรคแอนแทรกโนสและโรคไวรัสใบหงิกเหลือง เพื่อให้เกษตรได้ลดการใช้สารเคมีเพื่อป้องกันและกำจัดโรคและแมลง และเป็นการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนให้แก่เกษตรกร โดยการพัฒนาพันธุ์พริกผ่านกระบวนการเรียนการสอนทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอก ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสร้างนักปรับปรุงพันธุ์รุ่นใหม่ ที่มีทั้งความรู้ด้านการปรับปรุงพันธุ์พืชโดยใช้วิธีมาตรฐานร่วมกับการใช้เทคโนโลยีชีวภาพ และงานวิจัยนี้ยังได้เผยแพร่สายพันธู์เพื่อให้เกษตรกร และบริษัทเมล็ดนำไปต่อยอดใช้ในเชิงพานิชย์ และช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับธุรกิจเมล็ดพันธุ์ของประเทศไทยได้

คณะวิศวกรรมศาสตร์
ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ทดแทนเทคโนโลยียานยนต์พลังงานน้ำมันเชื้อเพลิง (Internal Combustion Engine: ICE) เพื่อลดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยเริ่มมีการผลักดันนโยบายการส่งเสริมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าผ่านหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เช่น การนำรถโดยสารไฟฟ้ามาทดสอบให้บริการประชาชนผ่านหน่วยงาน ขสมก. แต่อุปสรรคสำคัญของโครงการคือต้นทุนเริ่มต้นของราคายานยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูง แม้ว่ายานยนต์ไฟฟ้าจะมีค่าดำเนินการต่อระยะทางต่ำกว่าการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมากก็ตาม จึงทำให้ผู้ประกอบการยังไม่ให้ความสนใจในการเปลี่ยนการใช้งานจากรถเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นยานยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นการดัดแปลงรถเดิมเป็นรถไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดต้นทุนส่วนนี้ลงได้ โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีนี้กับการดัดแปลงรถกระบะเก่าให้เป็นรถ 2 แถวไฟฟ้า เพราะการใช้งานรถ 2 แถวมีระยะทางเฉลี่ยต่อวันค่อนข้างคงที่ ทำให้การออกแบบที่เหมาะสมมีเงื่อนไขที่ไม่เป็นอุปสรรคมากนัก และผู้ประกอบการขับรถ 2 แถว มีข้อจำกัดด้านงบประมาณในการเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นโครงการนี้จะส่งผลให้เป็นการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปใช้งานยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น นอกจากนี้เมื่อรถเครื่องยนต์สันดาปลดลงจะช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นด้วย

คณะวิศวกรรมศาสตร์
แอปพลิเคชันจัดการมื้ออาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เป็นเครื่องมือด้านสุขภาพดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในการจัดการด้านอาหารและระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น คำแนะนำมื้ออาหารที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล การติดตามสารอาหาร และการเชื่อมต่อแอปพลิเคชันกับอุปกรณ์วัดระดับน้ำตาลในเลือด (CGM) แอปพลิเคชันนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามระดับน้ำตาลได้แบบเรียลไทม์ และปรับเปลี่ยนการเลือกรับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสม พัฒนาด้วยเฟรมเวิร์ก Flutter และรองรับด้วย Back-end Express.js และ MongoDB แอปพลิเคชันนี้ให้ความสำคัญกับการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ใช้งานง่าย เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถส่งเสริมการวางแผนมื้ออาหารและการติดตามสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทดลองใช้งานเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าแอปพลิเคชันนี้มีส่วนช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีความคงที่มากขึ้นและเพิ่มการปฏิบัติตามคำแนะนำด้านอาหารได้ดีขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ด้วยการนำเสนอแนวทางในการหลักเลี่ยงตัวแปรของการเกิดโรคเบาหวาน แอปพลิเคชันนี้ช่วยลดความจำเป็นในการเข้ารับการรักษาทางคลินิกบ่อยครั้ง จึงมีศักยภาพในการลดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในระยะยาว โดยแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่น่าสนใจของโซลูชันด้านสุขภาพดิจิทัลในการสนับสนุนการดูแลโรคเบาหวานแบบเฉพาะบุคคล และเน้นย้ำถึงศักยภาพของการขยายขนาดและเน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพในระยะยาวสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน