ในปัจจุบันประเทศไทยมีแนวโน้มของปริมาณยางรถที่ใช้แล้วเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งยางรถเป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยาก แต่ยางรถยนต์เป็นวัสดุที่มีรูพรุนอยู่ภายในซึ่งมีความเป็นไปได้ในการนำมาทำเป็นวัสดุดูดซับเสียง เนื่องจากรูพรุนมีคุณสมบัติที่ทำให้วัสดุสามารถกักเสียงไว้ภายในได้ โครงงานนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและพัฒนาวัสดุดูดซับเสียงจากผงยางล้อรถที่ใช้แล้ว โดยนำผงยางรถยนต์ที่ใช้แล้วผสมกับน้ำยางพาราสดในอัตราส่วน 1:2 และทำการอบที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4 ชั่วโมง หลังจากนั้นทำการทดสอบคุณสมบัติทางกายภาพที่มีผลต่อการดูดซับเสียง ได้แก่ ความหนาแน่น ค่าความพรุนและค่าความสามารถในการดูดซึมน้ำ พบว่า วัสดุดูดซับเสียงจากผงยางรถยนต์ที่ใช้แล้วมีค่าความหนาแน่นเท่ากับ 0.96 กรัมต่อลบ.ซม. ค่าความพรุนเท่ากับ 0.45 และค่าความสามารถในการดูดซึมน้ำเท่ากับร้อยละ 11.03 ซึ่งมีความเป็นไปได้ในการนำผงยางรถยนต์ที่ใช้แล้วมาทำเป็นวัสดุดูดซับเสียงได้
ปัญหาปริมาณขยะจากยางล้อรถที่ใช้งานแล้วที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้หลายประเทศต้องเผชิญกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการขยะ ประเทศไทยมียางล้อรถที่ใช้งานแล้วประมาณ 60,000 – 70,000 ตันต่อปี ซึ่งยางล้อรถมีขนาดใหญ่และมีความต้องการพื้นที่จัดเก็บบริเวณกว้างเพื่อรอกำจัด ยางล้อรถเป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยากตามธรรมชาติ เนื่องจากในการผลิตยางล้อรถมีขั้นตอนการพันเส้นใยไนลอนโพลิเอเทอร์หรือใยเหล็กเข้ากับเนื้อยางเพื่อเสริมด้านการรับแรงที่ดีขึ้น เรียกว่า ชั้นโครงผ้าใบ และเมื่อพื้นที่จัดเก็บไม่เพียงพอต่อปริมาณขยะจากยางล้อรถที่ใช้แล้ว ยางล้อรถที่ใช้แล้วอาจกลายเป็นขยะที่ปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม หากทิ้งยางล้อรถไว้เป็นเวลานานและมีน้ำขังอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลายอันเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกได้ นอกจากนี้การกำจัดยางล้อรถที่ใช้แล้วอย่างไม่ถูกวิธีจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการเผายางรถยนต์จะทำให้เกิดมลพิษทางอากาศที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพมนุษย์ได้ ในปัจจุบันการจัดการยางรถยนต์ที่ใช้แล้วในประเทศไทยทำได้โดยการนำไปรีไซเคิลเป็นแผ่นยาง เม็ดยางหรือยางเหลว รวมถึงบดและปั่นจนเป็นผง ตัวอย่างการนำยางที่ผ่านการรีไซเคิลแล้วมาใช้ในการผลิตเป็นสินค้าใหม่ เช่น ใช้ในการผลิตพื้นผิวสนามกีฬา สนามเด็กเล่น และสนามหญ้าเทียม เนื่องจากยางมีความยืดหยุ่นสามารถดูดซับแรงกระแทกและการรองรับแรงกระแทกได้ ในด้านการเกษตรและภูมิทัศน์ใช้ยางล้อรถเป็นวัสดุคลุมดิน ช่วยกำจัดวัชพืช รักษาความชื้นของดิน นอกจากนี้โครงสร้างของยางล้อรถยังมีการออกแบบให้มีร่องและช่องว่าง ช่วยลดการสะท้อนและการกระแทกของเสียง เสียงที่เกิดจากการสัมผัสระหว่างยางกับพื้นถนนจะถูกดูดซับโดยเนื้อยาง ซึ่งช่วยให้เสียงที่เกิดจาการขับขี่เบาลงและลดความรำคาญที่เกิดจากเสียงรบกวนขณะขับรถได้ ซึ่งคุณสมบัตินี้มีความคล้ายคลึงกับคุณสมบัติของวัสดุดูดซับเสียงที่ในเนื้อวัสดุจะมีช่องว่างหรือรูพรุนภายในเนื้อวัสดุจำนวนมาก เมื่อเสียงมากระทบกับเนื้อวัสดุจะถูกดูดซับไว้ส่วนหนึ่งและสะท้อนส่วนที่เหลือกลับไป โดยตัวอย่างวัสดุดูดซับเสียงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันจะผลิตจากวัสดุจำพวกโฟมโพลีเอทิลีน ผ้าหรือเส้นใย ยิปซัมบอร์ด เป็นต้น และในปัจจุบันมีการนำยางมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตวัสดุฉนวนกันเสียงทั้งในอาคารหรือรถมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น งานวิจัยนี้จึงทำการศึกษาและพัฒนาวัสดุดูดซับเสียงจากผงยางรถที่ใช้แล้ว โดยศึกษาคุณสมบัติของผงยางรถที่ใช้แล้วและศึกษาวิธีการผลิตวัสดุดูดซับเสียงจากผงยางรถที่ใช้แล้ว เพื่อให้ได้วัสดุดูดซับเสียงที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอาคารสถานที่ได้ สามารถเป็นแนวทางในการนำยางรถที่ใช้แล้วมาต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าและใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นแนวทางการจัดการและลดปริมาณยางรถที่ใช้แล้วที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
คณะเทคโนโลยีการเกษตร
การศึกษาประสิทธิภาพปูนในการเพิ่มค่าอัลคาไลน์ในน้ำสำหรับการเพาะเลี้ยงกุ้งขาว Efficacy Study of lime in Enhancing Water Alkalinity for Pacific White Shrimp (Litopenaeus vannamei) Aquaculture การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการเพิ่มค่าอัลคาไลน์ของปูนที่มีองค์ประกอบ calcium oxide มากกว่า 50% และ magnesium oxide ไม่ต่ำกว่า 29% ในน้ำสำหรับการเพาะเลี้ยงกุ้งขาว ทดลองที่ระดับความเข้มข้น 0, 5, 10, 15 และ 20 ppm เป็นระยะเวลา 48 ชั่วโมง โดยเก็บข้อมูลที่ชั่วโมงที่ 0, 3, 6, 12, 24, 36 และ 48 ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าปูนมีประสิทธิภาพการแตกตัวสูง (65-86%) ในชั่วโมงแรก และเข้าสู่การแตกตัวสมบูรณ์ (98.5-98.6%) ภายใน 6 ชั่วโมง ค่า pH มีการเพิ่มขึ้นตามความเข้มข้นของปูนในช่วงแรก และค่อยๆ ลดลงในช่วง 3-12 ชั่วโมง ก่อนเข้าสู่สภาวะคงที่ ส่วนค่า Total alkalinity พบการเพิ่มขึ้นชัดเจนในช่วง 3-6 ชั่วโมงแรกและคงที่จนสิ้นสุดการทดลอง การวิเคราะห์ทางสถิติพบว่าทั้งความเข้มข้นและระยะเวลามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของทุกพารามิเตอร์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001)
วิทยาลัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมวัสดุ
ปัญหาด้านการตกต่ำด้านราคาของผลผลิตผลไม้ประเภทมะม่วงเป็นปัญหาสำคัญในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมะม่วงพันธุ์มหาชนกที่มีการเติบโตในการส่งออกอย่างมากเมื่อเทียบกับมะม่วงสายพันธุ์อื่น เนื่องจากเป็นมะม่วงที่มีสีสันสวยงาม มีกลิ่นหอม ปัญหาการตกต่ำด้านราคาเกิดจากมีผลผลิตที่ไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพการส่งออกทำให้เกิดผลผลิตที่ไม่ผ่านคุณภาพนำกลับมาขายในประเทศในราคาถูก บางกรณีเกษตรกรจำเป็นต้องละทิ้งผลผลิตดังกล่าว จากปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมีแนวคิดนำมะม่วงดังกล่าวมาสกัดสารหอมระเหยจากเปลือกของมะม่วงเพื่อจะคงสภาพสารระเหยและนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบด้านกลิ่นรวมทั้งการศึกษาปัจจัยทางแสงที่ส่งผลต่อการแสดงสีผิวเปลือกเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงสีบนผิวเปลือกผลไม้ให้มีความโดดเด่นจากธรรมชาติความสวยงามของผลมะม่วงที่มีสีสม่ำเสมอด้วยปัจจัยทางแสงที่มีความยาวคลื่นและพลังงานที่แตกต่างกัน โดยการศึกษาการเปลี่ยนแปลงเปลือกนอกเมื่อได้รับแสงโดยไม่ได้เกิดจากการสุกของผลมะม่วง องความรู้ที่ได้สามารถต่อยอดไปสู่การสร้างระบบนวัตกรรมต้นแบบ และสามารถนำเสนอนวัตกรรมที่ได้ต่อยอดสู่เกษตรกรหรือผู้ประกอบการที่สนใจและเพื่อประยุกต์ใช้งานด้านต่าง ๆ ต่อไป
คณะวิศวกรรมศาสตร์
แอปพลิเคชันจัดการมื้ออาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เป็นเครื่องมือด้านสุขภาพดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในการจัดการด้านอาหารและระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น คำแนะนำมื้ออาหารที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล การติดตามสารอาหาร และการเชื่อมต่อแอปพลิเคชันกับอุปกรณ์วัดระดับน้ำตาลในเลือด (CGM) แอปพลิเคชันนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามระดับน้ำตาลได้แบบเรียลไทม์ และปรับเปลี่ยนการเลือกรับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสม พัฒนาด้วยเฟรมเวิร์ก Flutter และรองรับด้วย Back-end Express.js และ MongoDB แอปพลิเคชันนี้ให้ความสำคัญกับการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ใช้งานง่าย เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถส่งเสริมการวางแผนมื้ออาหารและการติดตามสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทดลองใช้งานเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าแอปพลิเคชันนี้มีส่วนช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีความคงที่มากขึ้นและเพิ่มการปฏิบัติตามคำแนะนำด้านอาหารได้ดีขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ด้วยการนำเสนอแนวทางในการหลักเลี่ยงตัวแปรของการเกิดโรคเบาหวาน แอปพลิเคชันนี้ช่วยลดความจำเป็นในการเข้ารับการรักษาทางคลินิกบ่อยครั้ง จึงมีศักยภาพในการลดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในระยะยาว โดยแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่น่าสนใจของโซลูชันด้านสุขภาพดิจิทัลในการสนับสนุนการดูแลโรคเบาหวานแบบเฉพาะบุคคล และเน้นย้ำถึงศักยภาพของการขยายขนาดและเน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพในระยะยาวสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน