KMITL Expo 2026 LogoKMITL 66th Anniversary Logo

การพัฒนาเกมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับอารยธรรมอียิปต์

รายละเอียด

โครงงานเรื่อง การพัฒนาเกมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับอารยธรรมอียิปต์ นี้มีจุดประสงค์ในการจัดทําขึ้นเพื่อเป็นเกมส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับอารยธรรมอียิปต์โบราณ ซึ่งการเรียนรู้แบบเดิมอาจทำให้รู้สึกน่าเบื่อ ไม่ดึงดูดความสนใจจากผู้เรียน จึงเล็งเห็นถึงรูปแบบการนำเสนอในรูปแบบเกมบนเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนซึ่งสอดแทรกประวัติความรู้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้เกิดความน่าสนใจในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น ทางคณะผู้จัดทำได้เลือกใช้ อันเรียลเอนจิน 5.1 (Unreal Engine 5.1) และแว่นตาโลกเสมือนโอคูลัส เควสสอง (Oculus Quest2) มาพัฒนา ภายในตัวเกมผู้เล่นจะต้องหาทางหลบหนีจากห้องแห่งนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยการไขปริศนาที่จะมาในรูปแบบต่างๆ เช่น รูปปั้น กับดัก เป็นต้น เพื่อที่จะแก้ไขปริศนาและออกไปจากห้องแห่งนี้ได้ผู้เล่นจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลที่อยู่ภายในห้องทั้งหมด อีกทั้งตัวเกมมีการแสดงพลังชีวิตของผู้เล่นและเมื่อผู้เล่นไม่สามารถแก้ไขปริศนาได้อย่างถูกต้องพลังชีวิตของผู้เล่นจะค่อยๆหายไป แต่หากผู้เล่นสามารถแก้ไขปริศนาได้ไวตามเวลาที่กำหนดพลังชีวิตของผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

วัตถุประสงค์

อารยธรรมอียิปต์โบราณเป็นหนึ่งในอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ของโลกยุคโบราณที่เป็นต้นกำเนิดของศาสตร์หลายๆแขนง ชาวอียิปต์โบราณถือเป็นนักสร้างสรรค์อารยธรรมทั้งด้านคณิตศาสตร์ และสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นรากเหง้าของศาสตร์หลากหลายแขนงนั้นอาจต้องใช้เวลาและแหล่งข้อมูลจากหลายแหล่ง และมักจะเกิดความเบื่อหน่ายขึ้นได้ง่าย เพื่อที่ทำให้การศึกษาประวัติศาตร์เหล่านั้นไม่น่าเบื่อจนเกินไป ผู้จัดทำจึงได้นำเกมแนวไขปริศนาซึ่งสร้างขึ้นออกมาเป็นเสมือนกลไกในห้องลับเพื่อที่จะเสริมสร้างวิธีการแก้ไขปัญหาและได้ค้นหา เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปพร้อมๆกัน ผู้จัดทำเล็งเห็นว่าเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน หรือ VR (Virtual Reality) สามารถดึงความสนุก และเพิ่มความน่าสนใจของตัวเกมจากผู้เล่นในการแก้ไขปริศนาเพื่อหาวัตถุโบราณและนำข้อมูลที่ได้พบนั้นมาตอบคำถามเพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอารยธรรมอียิปต์ได้เป็นอย่างดี

นวัตกรรมอื่น ๆ

ประสิทธิภาพในการเสริมฤทธิ์ของเปปไทด์จากน้ำลาย Histatin-5 และ Phytosphingosine ต่อเชื้อ Streptococcus mutans ในสภาวะที่สร้างฟิล์มชีวภาพ

คณะทันตแพทยศาสตร์

ประสิทธิภาพในการเสริมฤทธิ์ของเปปไทด์จากน้ำลาย Histatin-5 และ Phytosphingosine ต่อเชื้อ Streptococcus mutans ในสภาวะที่สร้างฟิล์มชีวภาพ

วัตถุประสงค์ และที่มา โรคฟันผุยังคงเป็นปัญหาทางทันตกรรมที่สำคัญทั่วโลก โดยมีอัตราการเกิดสูงถึง 90% ในเด็ก และผู้ใหญ่ เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus mutans ทำให้เกิดฟันผุโดยผ่านกระบวนการเมตาบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต และสร้างไบโอฟิล์ม ซึ่งเป็นกระบวนการที่กำจัดได้ยาก Histatin-5 (HST-5) เป็นเปปไทด์ต้านเที่ชื้อพบในน้ำลายมนุษย์ ซึ่งแสดงฤทธิ์ต้านเชื้อราและแบคทีเรียหลายชนิด Phytosphingosine (PHS) เป็นสฟิงโกลิพิดที่สามารถพบในเชื้อรา พืช และมนุษย์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านเเช่นชื้อเเบคทีเรียเช่นกัน การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความสามารถในการฆ่าเชื้อของ HST-5 และเมื่อใช้ร่วมกับ PHS ต่อ S. mutans ภายใต้สภาวะการสร้างไบโอฟิล์ม วิธีการ ประเมินฤทธิ์การต้านต่อเชื้อ S. mutans ในรูปแบบพลางค์โทนิกโดยใช้วิธี time-kill assay และตรวจสอบความสามารถในการสร้างไบโอฟิล์มโดยการย้อมด้วยคริสตัลไวโอเลต ความสามารถในการฆ่าเชื้อของสารต่อไบโอฟิล์มที่เกิดขึ้น 24 ชั่วโมง ถูกประเมินโดยใช้ Transferable Solid Phase (TSP) pin lid model การส่งเสริมฤทธิ์ระหว่าง HST-5 และ PHS ถูกประเมินโดยใช้ checkerboard technique นอกจากนี้ความเป็นพิษต่อเซลล์ไฟโบรบลาสต์ของเหงือกมนุษย์ (hGFs) ถูกประเมินหลังจากบ่มกับสาร 1 ชั่วโมง โดยใช้ MTT assay ผลการศึกษา การทดสอบ time-kill assay แสดงให้เห็นว่า HST-5 และ PHS มีฤทธิ์ต้านเชื้อ S. mutans แบบขึ้นอยู่กับเวลาและความเข้มข้น โดยที่ PHS สามารถฆ่าเชื้อได้มากกว่า 90% ภายใน 15 นาที ที่ความเข้มข้น 5 μg/ml ในขณะที่ HST-5 ต้องใช้เวลา 30 นาที เพื่อฆ่าเชื้อ 90% ที่ความเข้มข้น 20 μM ความสามารถในการสร้างไบโอฟิล์มของ S. mutans ได้รับการยืนยัน ค่าความเข้มข้นที่สามารถยับยั้งการสร้างไบโอฟิล์มได้ครึ่งหนึ่ง (IC50) ของ HST-5 และ PHS คือ 25 μM และ 13.5 μg/ml ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้ HST-5 และ PHS ร่วมกันให้ผลเสริมฤทธิ์ โดยค่า IC50 ลดลง 8 และ 16 เท่า ตามลำดับ สุดท้ายนี้ทั้งสองสารไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ hGFs ที่ความเข้มข้นที่ใช้ในการออกฤทธิ์เสริมกัน สรุปผล ดังนั้น การใช้ HST-5 และ PHS ร่วมกันอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารต้านจุลชีพต่อไบโอฟิล์มของ S. mutans ซึ่งอาจมีศักยภาพในการป้องกันการเกิดโรคฟันผุ

สื่อการเรียนรู้การประกอบคอมพิวเตอร์ด้วยเทคโนโลยีความจริงเสมือน

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ

สื่อการเรียนรู้การประกอบคอมพิวเตอร์ด้วยเทคโนโลยีความจริงเสมือน

ปัจจุบันการประกอบคอมพิวเตอร์ถือได้ว่าเป็นสิ่งใกล้ตัวผู้คนมากมาย ทุกคนมีโอกาสจับต้องได้ ซึ่งความรู้ในองค์ประกอบต่างๆของคอมพิวเตอร์ และทักษะในการประกอบคอมพิวเตอร์ 2 สิ่งที่กล่าวไปเป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปควรมีความรู้และความเข้าใจพื้นฐาน สำหรับการประกอบคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง เราจึงอยากที่จะให้ความรู้แก่บุคคลทั่วไปที่ต้องการที่จะเรียนรู้วิธีการประกอบ คอมพิวเตอร์ รวมไปข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับองค์ประกอบ ผ่านการนำเสนอให้ออกมาในรูปแบบของสื่อการเรียนรู้บนเทคโนโลยี VR ซึ่งจะช่วยลดปัญหาด้านความผิดพลาด และทรัพยากรที่จะใช้ในการประกอบลงไปได้ พร้อมสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ใช้งานด้วยการจำลองการประกอบคอมพิวเตอร์ให้ผู้ใช้ได้มีปฏิสัมพันธ์ภายในโลกเสมือน สร้างประสบการณ์ และให้ความรู้ก่อนที่จะนำไปปฏิบัติจริงกับอุปกรณ์จริง โครงงานนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจในการประกอบคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ในการประกอบคอมพิวเตอร์มาก่อน รวมไปถึงบุคคลที่อยากมีโอกาสได้ลองประกอบคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง

ระบบอัตโนมัติสำหรับติดตามการเจริญเติบโตของจิ้งหรีดด้วยกล้องอินฟาเรด

คณะวิทยาศาสตร์

ระบบอัตโนมัติสำหรับติดตามการเจริญเติบโตของจิ้งหรีดด้วยกล้องอินฟาเรด

ในการเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อบริโภคเนื้อนั้น อัตราการเจริญเติบโต และระยะเวลาเจริญเติบโตของจิ้งหรีดเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการระบุจำนวนจิ้งหรีดต่อพื้นที่เพาะเลี้ยงในแต่ละช่วงอายุ ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้มีแนวคิดที่จะสร้างระบบสำหรับการติดตามอัตราการเจริญเติบโตของจิ้งหรีดในระบบปิดโดยใช้กล้องอินฟาเรดร่วมกับการประมวลผลภาพ (Image processing) ด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อศึกษาการเจริญเติบโต ระบุบระยะเวลาการเจริญเติบโตของจิ้งหรีดในแต่ละช่วงอายุ เพื่อให้ได้องค์ความรู้ที่จะนำไปเผยแพร่ให้แก่เกษตรกรสำหรับปรับปรุงกระบวนการเลี้ยงให้มีประสิทธิ์ภาพสูงที่สุด