KMITL Expo 2026 LogoKMITL 66th Anniversary Logo

ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอัตโนมัติในโรงเรือนเห็ดนางฟ้าภูฐานในครัวเรือนขนาดเล็ก

ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอัตโนมัติในโรงเรือนเห็ดนางฟ้าภูฐานในครัวเรือนขนาดเล็ก

รายละเอียด

ในปัจจุบัน ความสนใจในสุขภาพและการบริโภคอาหารปลอดสารพิษได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาหารที่สามารถผลิตได้เองในครัวเรือน เช่น เห็ดนางฟ้าภูฐาน ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเหมาะสำหรับการควบคุมน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม การเพาะเห็ดในโรงเรือนขนาดเล็กมักประสบปัญหาสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิและความชื้นที่ไม่เสถียร ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของเห็ด การพัฒนาระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอัตโนมัติจึงมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นเพื่อปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเห็ดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดความผิดพลาดจากการควบคุมด้วยมือ และส่งเสริมการผลิตอาหารที่ปลอดภัยในครัวเรือน นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและสนับสนุนแนวคิดการใช้ชีวิตที่ยั่งยืน การใช้เทคโนโลยีนี้จึงถือเป็นนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับการเพาะเห็ดให้มีคุณภาพและเพิ่มความยั่งยืนในการผลิตอาหาร

วัตถุประสงค์

ในปัจจุบัน ความสนใจในสุขภาพและการบริโภคอาหารปลอดสารพิษได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มมองหาอาหารที่สดใหม่และปลอดภัย โดยเฉพาะอาหารที่สามารถผลิตได้เองในครัวเรือน หนึ่งในอาหารยอดนิยมที่ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพคือ “เห็ดนางฟ้าภูฐาน” ซึ่งเป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีแคลอรี่ต่ำและย่อยง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือรักษาสุขภาพและยังสามารถตอบโจทย์ทั้งการผลิตอาหารเพื่อบริโภคเองและการสร้างรายได้เสริม อย่างไรก็ตามการเพาะเห็ดในโรงเรือนขนาดเล็กมักเผชิญกับปัญหาสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องอุณหภูมิและความชื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเห็ด เนื่องจากเห็ดนางฟ้าภูฐานต้องการอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมในแต่ละช่วงของการเพาะปลูก เช่น การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่ไม่เสถียร ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของเห็ด สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและข้อจำกัดในการควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนแบบดั้งเดิมอาจทำให้เกิดความยุ่งยากและไม่แม่นยำ อีกทั้งยังใช้เวลาและแรงงานสูง ทำให้เกิดความต้องการเทคโนโลยีที่ช่วยจัดการและควบคุมสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอัตโนมัติในโรงเรือนเห็ดขนาดเล็ก ระบบควบคุมอัตโนมัตินี้ช่วยลดความซับซ้อนของการจัดการโรงเรือน โดยใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้น และส่งข้อมูลไปยังตัวควบคุมเพื่อปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับความต้องการของเห็ดนางฟ้าโดยอัตโนมัติ เช่น การเปิด-ปิดพัดลม ระบายอากาศ หรือการเพิ่มความชื้นผ่านสปริงเกอร์แบบละอองน้ำละเอียด นอกจากนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของเห็ดแล้ว ยังช่วยลดความผิดพลาดจากการควบคุมด้วยมือ นอกจากนี้ ความสำคัญของระบบควบคุมอัตโนมัติไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกให้กับผู้เพาะเห็ด แต่ยังช่วยส่งเสริมการผลิตอาหารเพื่อสุขภาพในระดับครัวเรือน ผู้เพาะปลูกสามารถผลิตอาหารคุณภาพสูงได้ด้วยตนเอง ลดการพึ่งพาอาหารจากภายนอกที่อาจมีสารเคมีปนเปื้อน และยังช่วยสนับสนุนแนวคิดการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนและส่งเสริมการพึ่งพาตนเองในครัวเรือนด้วยเหตุนี้ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอัตโนมัติในโรงเรือนเห็ดนางฟ้าภูฐานในครัวเรือนขนาดเล็กจึงถือเป็นนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับการเพาะเห็ดให้มีคุณภาพ ช่วยแก้ปัญหาที่พบในวิธีการเพาะแบบดั้งเดิม และสนับสนุนการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนในครัวเรือนอย่างแท้จริง

นวัตกรรมอื่น ๆ

ภาระ - พาฝัน

คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ

ภาระ - พาฝัน

บนเส้นทางของการมีชีวิตอยู่นับตั้งแต่เราเกิด คนเราต่างต้องประสบพบเจอกับสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย ความแตกต่างและหลากหลายลักษณะ ทั้งนี้แล้วแต่ละปัจจัยของการมีชีวิตของแต่ละบุคคล ต่างมีภาระหน้าที่ ความฝันที่ต่างกัน ความแตกต่างของบริบทชีวิต ทุกคนยังคงต้องดิ้นรนต่อสู้กับอุปสรรค ภาระมากมายในการดำเนินชีวิต แบกรับภาระหน้าที่ของตนและครอบครัวเพื่อความอยู่รอด การดำเนินชีวิตในรูปแบบที่ต่างกัน ภาระและความฝันที่มีมากมาย หากแต่ในบทชีวิตจริง จะมีสักกี่คนที่สามารถแบกรับภาระเหล่านี้ไปได้ถึงฝั่งฝันของตน

การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากเสม็ดขาวอย่างยั่งยืน

คณะเทคโนโลยีการเกษตร

การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากเสม็ดขาวอย่างยั่งยืน

เป็นการศึกษาภูมิปัญญา ชีววิทยา และ สารสำคัญ เพื่อนำพืชเสม็ดขาว (Melaleuca cajuputu Powell) เพื่อการอนุรักษ์ และนำมาใช้ประโยช์ด้านเการเกษตร สุขภาพ และพลังงานชีวมวล

การกำจัดไบโอฟิล์มในช่องปากที่เกิดจากเชื้อโรคปริทันต์อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ DNase I และเปปไทด์ต้านจุลชีพมนุษย์ที่ถูกดัดแปลง D-LL-31: ศักยภาพในการพัฒนาเป็นน้ำยาบ้วนปาก

คณะทันตแพทยศาสตร์

การกำจัดไบโอฟิล์มในช่องปากที่เกิดจากเชื้อโรคปริทันต์อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ DNase I และเปปไทด์ต้านจุลชีพมนุษย์ที่ถูกดัดแปลง D-LL-31: ศักยภาพในการพัฒนาเป็นน้ำยาบ้วนปาก

Aggregatibacter actinomycetemcomitans เป็นเชื้อก่อโรคหลักของโรคปริทันต์ โดยสามารถทำลายเอ็นยึดปริทันต์และกระดูกเบ้าฟันผ่านการสร้างไบโอฟิล์ม D-LL-31 ซึ่งเป็นเปปไทด์ต้านจุลชีพที่ถูกดัดแปลงทางวิศวกรรม แสดงศักยภาพที่สูงในการกำจัดเชื้อที่ฝังตัวในไบโอฟิล์มได้ดีกว่าวิธีรักษาแบบดั้งเดิม ขณะที่ DNase I ช่วยเสริมประสิทธิภาพโดยการสลายเมทริกซ์ของไบโอฟิล์ม โดยวัตถุประสงศ์ของงานวิจัยนี้ต้องศึกษาผลของ D-LL-31 ร่วมกับ DNase I ต่อไบโอฟิล์มของ A. actinomycetemcomitans ผลการทอลองพบว่า D-LL-31 สามารถกำจัดไบโอฟิล์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อใช้ร่วมกับ DNase I จะช่วยเพิ่มการทำลายไบโอฟิล์มได้มากขึ้น โดยไม่ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อเซลล์เยื่อบุเหงือก ดังนั้นการใช้ D-LL-31 ร่วมกับ DNase I มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นน้ำยาบ้วนปาก เพื่อช่วยรักษาสุขภาพช่องปากและลดความเสี่ยงของโรคปริทันต์