KMITL Innovation Expo 2025 Logo

หน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาด

หน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาด

รายละเอียด

หน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาด มีการบริการทดสอบสมรรถนะและประสิทธิภาพยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม รวมถึงการเป็นต้นแบบของโครงการวิจัยด้านพลังงานเชื้อเพลิงสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเครื่องมือหลักในการทดสอบ คือ Chassis Dynamometer และ เครื่องวิเคราะห์ไอเสียจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ซึ่งทางหน่วยบริการฯ ได้เปิดบริการตรวจวัดและทดสอบตามประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อนรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2563 ให้กับยานยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ เช่น มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าดัดแปลง รถตุ๊กๆ ไฟฟ้าดัดแปลง และรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง เป็นต้น

วัตถุประสงค์

เนื่องจากในปัจจุบันมีการเจริญเติบโตทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยี เศรษฐกิจ การขนส่ง และการคมนาคมเป็นอย่างมาก ทำให้มีการใช้รถยนต์สำหรับการคมนาคมและขนส่งอย่างมากมาย ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์นั่งสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่และรถตุ๊กๆนั่นเอง ซึ่งจากข้อมูลเมื่อปี 2556 ในกรุงเทพมหานคร มีรถแท็กซี่ประมาณ 120,000 คัน ในจำนวนนี้มีรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครจำนวนทั้งสิ้น 108,616 คัน แต่มีรถแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพตัวรถตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด จำนวน 24,859 คัน หรือคิดเป็น 23 % ของจำนวนรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น ทั้งนี้ในอนาคตอันใกล้ กลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์นั่งสาธารณะเหล่านี้จะถูกผลักดันจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลให้เปลี่ยนมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในจำนวนมาก เพื่อมาแทนยานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันซึ่งจะเป็นแนวทางในการลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ และช่วยลดมลพิษไอเสียที่เกิดขึ้นมาจากเครื่องยนต์สันดาปภายในเหล่านั้น ที่ส่งผลกระทบต่อการเกิดภาวะโลกร้อน (Global warming) โดยตรง ดังนั้นยานยนต์ไฟฟ้าปริมาณมากมายที่จะถูกนำมาใช้งานจริงบนท้องถนนต้องผ่านการตรวจสอบและทดสอบสมรรถนะอย่างถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐานจากกรมการขนส่งทางบกโดยตรง หรือจากหน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาดที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้แทนตรวจสภาพรถยนต์ไฟฟ้าได้ จึงเป็นมูลเหตุให้มีการจัดตั้งหน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาดขึ้น เพื่อรองรับการการตรวจสอบและทดสอบสมรรถนะยานยนต์ไฟฟ้าตามเกณฑ์มาตรฐานจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งขณะนี้หน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านของเราได้มีความร่วมมือจากคณะวิทยาศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติและหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิเช่น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภาค 5, บริษัท ไทยคิงมอเตอร์ อินโนเวชั่น จำกัด, บริษัท เอ็ส บี เอ็ม เอ็นจิเนี่ยริ่ง จำกัด, บริษัท ช่วยราม เอ็นจิเนี่ยริ่ง จำกัด และสมาคมการค้ารถสามล้อส่วนบุคคล และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนการตรวจสอบและทดสอบสมรรถนะยานยนต์ไฟฟ้า เช่น บริการทดสอบประสิทธิภาพกำลังงาน ประสิทธิภาพการเผาไหม้และค่าไอเสียของรถยนต์สันดาปภายใน รถยนต์นั่งสาธารณะ(รถแท็กซี่)ในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในเขตลาดกระบัง นอกจากนี้ยังจะเป็นการบูรณาการการศึกษาสำหรับการเรียนการสอนในรายวิชา 05106335 หน่วยปฏิบัติการทางอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ของภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ ที่มีสาระสำคัญมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้การถ่ายโอนโมเมนตัม การไหลของอากาศ การดุลมวล โมเมนตัมและพลังงาน รายวิชาด้าน Software and Automotive Engineering ของภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาลัยนานาชาติ ได้เข้าเรียนรู้ และฝึกงานที่หน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะออกไปทำงานจริง ดังนั้น การเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ในรายวิชาที่กำลังศึกษาจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาองค์ความรู้ในเชิงปฏิบัติได้เป็นอย่างดี

นวัตกรรมอื่น ๆ

บัดดี้เทคแคร์

คณะศิลปศาสตร์

บัดดี้เทคแคร์

ชิ้นงานนวัตกรรมไม้เท้าBuddy take care มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยพยุงร่างกายให้ผู้สูงอายุหรือผู้ฟื้นฟูจากการบาดเจ็บให้ สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก ลดความเสี่ยงต่อการหกล้มและเพิ่มความปลอดภัยในการเดิน โดยออกแบบเป็นไม้เท้า พวงกุญแจ ที่สามารถเปิด-ปิด One Touch ได้ นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดจากสินค้าที่มีอยู่ในตลาด ณ ปัจจุบันโดยไม้เท้า บัดดี้มีฟังก์ชั่น การใช้งานด้านไฟฉายพกพา ช่องเก็บยา แอร์แทก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน โดยออกแบบให้ เหมาะแก่ผู้สูงอายุให้สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวกและปลอดภัย

การศึกษาประสิทธิภาพของปูนในการเพิ่มค่าอัลคาไลน์ในการเพาะเลี้ยงกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei)

คณะเทคโนโลยีการเกษตร

การศึกษาประสิทธิภาพของปูนในการเพิ่มค่าอัลคาไลน์ในการเพาะเลี้ยงกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei)

การศึกษาประสิทธิภาพปูนในการเพิ่มค่าอัลคาไลน์ในน้ำสำหรับการเพาะเลี้ยงกุ้งขาว Efficacy Study of lime in Enhancing Water Alkalinity for Pacific White Shrimp (Litopenaeus vannamei) Aquaculture การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการเพิ่มค่าอัลคาไลน์ของปูนที่มีองค์ประกอบ calcium oxide มากกว่า 50% และ magnesium oxide ไม่ต่ำกว่า 29% ในน้ำสำหรับการเพาะเลี้ยงกุ้งขาว ทดลองที่ระดับความเข้มข้น 0, 5, 10, 15 และ 20 ppm เป็นระยะเวลา 48 ชั่วโมง โดยเก็บข้อมูลที่ชั่วโมงที่ 0, 3, 6, 12, 24, 36 และ 48 ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าปูนมีประสิทธิภาพการแตกตัวสูง (65-86%) ในชั่วโมงแรก และเข้าสู่การแตกตัวสมบูรณ์ (98.5-98.6%) ภายใน 6 ชั่วโมง ค่า pH มีการเพิ่มขึ้นตามความเข้มข้นของปูนในช่วงแรก และค่อยๆ ลดลงในช่วง 3-12 ชั่วโมง ก่อนเข้าสู่สภาวะคงที่ ส่วนค่า Total alkalinity พบการเพิ่มขึ้นชัดเจนในช่วง 3-6 ชั่วโมงแรกและคงที่จนสิ้นสุดการทดลอง การวิเคราะห์ทางสถิติพบว่าทั้งความเข้มข้นและระยะเวลามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของทุกพารามิเตอร์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001)

การทำนายคุณสมบัติของโครงสร้างกระดูกจากวัสดุชีวภาพคอมโพสิตทำจากการพิมพ์ 3 มิติ โดยใช้การวิเคระห์ด้วยไฟไนต์เอลิเมนต์

วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

การทำนายคุณสมบัติของโครงสร้างกระดูกจากวัสดุชีวภาพคอมโพสิตทำจากการพิมพ์ 3 มิติ โดยใช้การวิเคระห์ด้วยไฟไนต์เอลิเมนต์

โครงสร้างกระดูกจากวัสดุชีวภาพเป็นวัสดุที่ช่วยให้การฟื้นฟู หรือซ่อมแซ่มเนื้อเยื้อกระดูกได้อย่างรวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งนี้ตัววัสดุที่เป็นโครงสร้างสามารถที่จะย่อยสลายภายในร่างกาย หรือในระบบชีวภาพได้เป็นอย่างดี ในงานนี้จึงนี้จุดมุ่งหมายในการศึกษาถึงวัสดุ รูปร่าง และกระบวนการผลิตในการพิมพ์ 3 มิติด้วยเทคนิคการหลอมละลายเส้นพลาสติก (fused deposition modeling: FDM) ที่เหมาะสม ซึ่งได้ใช้ระเบียบวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์เพื่อทำนายคุณสมบัติเชิงกลของโครงสร้างกระดูกที่มีรูปร่าง และขนาดรูพรุนที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามวัสดุที่ใช้การศึกษานี้ ได้แก่ พอลีแลคติคแอซิด (polylactic acid: PLA) พอลิคาโพรแลกโตน (polycaprolactone: PCL) และ ไฮดรอกซิลอะพาไทต์ (hydroxyapatite: HA)