KMITL Expo 2026 LogoKMITL 66th Anniversary Logo

หน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาด

หน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาด

รายละเอียด

หน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาด มีการบริการทดสอบสมรรถนะและประสิทธิภาพยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม รวมถึงการเป็นต้นแบบของโครงการวิจัยด้านพลังงานเชื้อเพลิงสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเครื่องมือหลักในการทดสอบ คือ Chassis Dynamometer และ เครื่องวิเคราะห์ไอเสียจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ซึ่งทางหน่วยบริการฯ ได้เปิดบริการตรวจวัดและทดสอบตามประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อนรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2563 ให้กับยานยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ เช่น มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าดัดแปลง รถตุ๊กๆ ไฟฟ้าดัดแปลง และรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง เป็นต้น

วัตถุประสงค์

เนื่องจากในปัจจุบันมีการเจริญเติบโตทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยี เศรษฐกิจ การขนส่ง และการคมนาคมเป็นอย่างมาก ทำให้มีการใช้รถยนต์สำหรับการคมนาคมและขนส่งอย่างมากมาย ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์นั่งสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่และรถตุ๊กๆนั่นเอง ซึ่งจากข้อมูลเมื่อปี 2556 ในกรุงเทพมหานคร มีรถแท็กซี่ประมาณ 120,000 คัน ในจำนวนนี้มีรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครจำนวนทั้งสิ้น 108,616 คัน แต่มีรถแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพตัวรถตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด จำนวน 24,859 คัน หรือคิดเป็น 23 % ของจำนวนรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น ทั้งนี้ในอนาคตอันใกล้ กลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์นั่งสาธารณะเหล่านี้จะถูกผลักดันจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลให้เปลี่ยนมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในจำนวนมาก เพื่อมาแทนยานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันซึ่งจะเป็นแนวทางในการลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ และช่วยลดมลพิษไอเสียที่เกิดขึ้นมาจากเครื่องยนต์สันดาปภายในเหล่านั้น ที่ส่งผลกระทบต่อการเกิดภาวะโลกร้อน (Global warming) โดยตรง ดังนั้นยานยนต์ไฟฟ้าปริมาณมากมายที่จะถูกนำมาใช้งานจริงบนท้องถนนต้องผ่านการตรวจสอบและทดสอบสมรรถนะอย่างถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐานจากกรมการขนส่งทางบกโดยตรง หรือจากหน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาดที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้แทนตรวจสภาพรถยนต์ไฟฟ้าได้ จึงเป็นมูลเหตุให้มีการจัดตั้งหน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาดขึ้น เพื่อรองรับการการตรวจสอบและทดสอบสมรรถนะยานยนต์ไฟฟ้าตามเกณฑ์มาตรฐานจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งขณะนี้หน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านของเราได้มีความร่วมมือจากคณะวิทยาศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติและหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิเช่น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภาค 5, บริษัท ไทยคิงมอเตอร์ อินโนเวชั่น จำกัด, บริษัท เอ็ส บี เอ็ม เอ็นจิเนี่ยริ่ง จำกัด, บริษัท ช่วยราม เอ็นจิเนี่ยริ่ง จำกัด และสมาคมการค้ารถสามล้อส่วนบุคคล และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนการตรวจสอบและทดสอบสมรรถนะยานยนต์ไฟฟ้า เช่น บริการทดสอบประสิทธิภาพกำลังงาน ประสิทธิภาพการเผาไหม้และค่าไอเสียของรถยนต์สันดาปภายใน รถยนต์นั่งสาธารณะ(รถแท็กซี่)ในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในเขตลาดกระบัง นอกจากนี้ยังจะเป็นการบูรณาการการศึกษาสำหรับการเรียนการสอนในรายวิชา 05106335 หน่วยปฏิบัติการทางอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ของภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ ที่มีสาระสำคัญมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้การถ่ายโอนโมเมนตัม การไหลของอากาศ การดุลมวล โมเมนตัมและพลังงาน รายวิชาด้าน Software and Automotive Engineering ของภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาลัยนานาชาติ ได้เข้าเรียนรู้ และฝึกงานที่หน่วยบริการวิชาการเฉพาะทางด้านการทดสอบสมรรถนะยานยนต์เชื้อเพลิงสะอาด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะออกไปทำงานจริง ดังนั้น การเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ในรายวิชาที่กำลังศึกษาจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาองค์ความรู้ในเชิงปฏิบัติได้เป็นอย่างดี

นวัตกรรมอื่น ๆ

การประเมินคุณสมบัติของอนุภาคซิลเวอร์นาโนจากสารสกัดของสมอไทยสำหรับฟิล์มเคลือบสตรอเบอร์รี่

คณะอุตสาหกรรมอาหาร

การประเมินคุณสมบัติของอนุภาคซิลเวอร์นาโนจากสารสกัดของสมอไทยสำหรับฟิล์มเคลือบสตรอเบอร์รี่

งานวิจัยนี้ศึกษาฟิล์มบรรจุภัณฑ์แอคทีฟจากพอลิไวนิลแอลกอฮอล์ (PVA) และเส้นใยนาโนเซลลูโลส (NFC) โดยเติมอนุภาคซิลเวอร์นาโน (AgNPs) ที่สังเคราะห์จากสารสกัดสมอไทย ซึ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ฟิล์มที่พัฒนาขึ้นถูกทดสอบสมบัติทางกล การยับยั้งจุลินทรีย์ และการย่อยสลายทางชีวภาพ ผลการวิจัยพบว่าการเติม AgNPs จากสมอไทยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผลิตภัณฑ์และยืดอายุการเก็บรักษาสตรอเบอร์รีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ เรื่องขุนช้างขุนแผนตอนขุนช้างถวายฎีกาสำหรับเยาวชน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วรรณคดี การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในจังหวัดสุพรรณบุรี

คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ

การพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ เรื่องขุนช้างขุนแผนตอนขุนช้างถวายฎีกาสำหรับเยาวชน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วรรณคดี การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในจังหวัดสุพรรณบุรี

ปัจจุบันเยาวชนขาดความสนใจและไม่เห็นความสำคัญของการเรียนวรรณคดี เพราะคิดว่าเป็นเรื่องยาก, ซับซ้อน และขาดสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัยและน่าสนใจ ดังนั้นผู้วิจัยจึงเลือกวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผนตอนขุนช้างถวายฎีกาที่ใช้สอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มาพัฒนาเนื่องจากเป็นวรรณคดีที่สะท้อนวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี สถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่จริง โดยจะพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ให้ทันสมัย เหมาะกับเยาวชนเพื่อแก้ปัญหาจากการเรียนวรรณคดีดังที่กล่าวมา นอกจากนี้สื่อประชาสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นสามารถใช้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยกลุ่มเป้าหมายของงานวิจัยคือเยาวชนอายุ 15-25 ปี มีจุดประสงค์ "เพื่อสร้างสื่อประชาสัมพันธ์สำหรับเยาวชนเรื่องขุนช้างขุนแผนตอนขุนช้างถวายฎีกา ที่สามารถ 1. สร้างความสนใจในการเรียนรู้วรรณคดี และ 2. สร้างแรงจูงใจในการท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรีให้แก่เยาวชนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05” งานวิจัยโครงการนี้จะแบ่งออกเป็น 3 โครงการย่อยที่ผสมทั้งงานวิจัยเชิงคุณภาพ เชิงปริมาณ และการปฏิบัติเข้าด้วยกันได้แก่ 1. การสร้างองค์ความรู้กรอบแนวคิดในการวิจัยสำหรับการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์วรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน (เชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ 10 ท่าน และเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถาม 600 ชุด) 2. การผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ที่ผสมสื่อมัลติมีเดียสำหรับเยาวชน ที่เชื่อมโยงกับสื่อโซเชียลมีเดียเรื่องขุนช้างขุนแผนตอนขุนช้างถวายฎีกา (การวิจัยเชิงปฏิบัติเพื่อสร้างสรรค์ผลงานประกอบด้วย e-book 1 ฉบับ, Youtube channel จำนวน 5 ตอน, Page Facebook และ Instagram) 3. การเผยแพร่และประเมินผลสื่อประชาสัมพันธ์เรื่องขุนช้างขุนแผน (เชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถาม 600 ชุดกับเยาวชนใน 6 ภาค)

ระบบประเมินโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบออฟไลน์เพื่อออกแบบระบบผู้เชี่ยวชาญในภาษาไทย

วิทยาลัยนวัตกรรมการผลิตขั้นสูง

ระบบประเมินโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบออฟไลน์เพื่อออกแบบระบบผู้เชี่ยวชาญในภาษาไทย

ระบบประเมินโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบออฟไลน์ในภาษาไทยถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถทดสอบและประเมินประสิทธิภาพของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models: LLMs) ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อภายนอก ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเลือกใช้ LLMs ที่เหมาะสมกับความต้องการขององค์กรหรือระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System: ES) ระบบสามารถทำงานบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บข้อมูลภายนอก ส่งผลให้มีความปลอดภัยของข้อมูลสูง นอกจากนี้ ยังรองรับการทดสอบและพัฒนาโมเดลด้วยเทคนิคการดึงข้อมูลเสริม (Retrieval-Augmented Generation: RAG) เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเฉพาะทางและประมวลผลได้อย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพด้านพลังงาน และตอบสนองความต้องการขององค์กรและระบบผู้เชี่ยวชาญได้อย่างเหมาะสม