KMITL Innovation Expo 2025 Logo

การจำแนกระดับทักษะในการเขียนของเด็กโดยใช้เทคโนโลยีการประมวลผลภาพ

รายละเอียด

ในปัจจุบันปัญหาด้านภาวะพัฒนาการบกพร่องด้านการเขียนที่เกิดขึ้นในเด็กนั้น เป็นปัญหาที่ควรให้ความ สําคัญอย่างมากสําหรับเด็กในวัยเรียนรู้ โดยการวินิจฉัยว่าตัวเด็กนั้นมีความผิดปกติทางภาวะพัฒนาการบกพร่องด้านการเขียนหรือไม่นั้น จำต้องอาศัยแบบประเมินทักษะในการเขียน ซึ่งจะถูกนำไปให้ผู้ที่ต้องการวินิจฉัยทำ และถูกประเมินโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของรูปแบบในการวินิจฉัยที่ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงทำให้มีความต้องการทางด้านทรัพยากรบุคคลเป็นอย่างมาก เราจึงทำการออกแบบวิธีในการให้คะแนนผ่านแบบประเมินทักษะในการเขียน โดยใช้เทคโนโลยีประมวลผลภาพและอาศัยเกณฑ์การให้คะแนนจากเกณฑ์ดังเดิม โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนที่สามารถหาได้ปัจจุบันอยู่ 3 เกณฑ์ตอนนี้ คือ ตําแหน่ง การเขียนบทความ รูปแบบบทความ และความเร็วในการคัดลอก อีกทั้งเรายังทำการจัดสร้างเว็บแอปพลิเคชันเพื่อให้สามารถให้งานระบบได้ง่ายยิ่งขึ้น

วัตถุประสงค์

ปัญหาด้านภาวะพัฒนาการบกพร่องด้านการเขียนที่เกิดขึ้นในเด็กนั้น เป็นปัญหาที่ควรให้ความ สำคัญอย่างมากสำหรับเด็กในวัยเรียนรู้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทักษะพื้นฐานอันเป็นหัวใจ หลักของการเรียนรู้สำหรับเด็กในอนาคต เช่น ทักษะการคำนวณพื้นฐาน ทักษะด้านการสื่อสารรวม ถึงทักษะในการเข้าสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้ชีวิตของเด็กในอนาคต ถึงกระนั้นภาวะพัฒนาการ บกพร่องด้านการเขียนก็ได้รับความสนใจในการศึกษาค้นคว้าน้อยกว่าภาวะความบกพร่องในด้านอื่น ๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความซับซ้อนจากหลากหลายปัจจัย ถึงแม้ว่าการที่ภาวะพัฒนา การบกพร่อง ด้านการเขียนมักถูกวินิจฉัยเมื่อเข้าสู่สถานศึกษา แต่ก็ยังต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการแพทย์ เพื่อมาชี้แนะและแนะนำแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อเฝ้าระวังและรักษาภาวะความบกพร่องนี้ได้อย่างทัน ท่วงที ปัจจุบันภาวะพัฒนาการบกพร่องด้านการเขียนจะถูกวินิจฉัยด้วยระดับของทักษะความสามารถ ในการเขียนของผู้ที่ถูกประเมิน ซึ่งจะถูกประเมินโดยลักษณะความผิดพลาดของการเขียนที่เห็นได้อย่าง ชัดเจน เช่น การสร้างรูปแบบบทความ การจัดเรียงบรรทัดหรือรูปแบบในการสร้างตัวอักษร โดยจะ ถูกประเมินผ่านการสังเกตของมนุษย์ จึงจำเป็นที่จะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะสามารถมั่นใจได้ว่า ผลลัพธ์จากการประเมินดังกล่าวนั้นถูกต้อง จึงทำให้การวินิจฉัยภาวะพัฒนาการบกพร่องในการเขียน นั้นต้องอาศัยบุคลากรเป็นอย่างมาก และยังไม่มีอุปกรณ์ในการช่วยเหลือใด ๆ ที่จะทำให้การวินิจฉัย รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทางเราจึงเชื่อว่าการนำเทคโนโลยีประมวลผลภาพเข้ามาปรับใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาด ใน การเขียนของเด็กโดยอาศัยเทคนิคต่าง ๆ เพื่อทำการหาปัจจัยที่เป็นตัวบ่งบอกถึงระดับทักษะใน การเขียน และนำข้อมูลดังกล่าวที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีประมวลผลภาพ มาวิเคราะห์เพื่อทำการแบ่ง ระดับทักษะออกมาโดยเบื้องต้น เพื่อให้ผู้ที่ส่วนเกี่ยวข้องใช้เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาหรือใช้สำหรับ ประกอบควบคู่ไปกับการวินิจฉัย

นวัตกรรมอื่น ๆ

ระบบตำรวจอัจฉริยะป้องกันการโจรกรรมสำหรับเมืองฉะเชิงเทรา

คณะวิศวกรรมศาสตร์

ระบบตำรวจอัจฉริยะป้องกันการโจรกรรมสำหรับเมืองฉะเชิงเทรา

โครงการนี้นำหลักการของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และ Deep Learning มาจัดทำระบบตำรวจอัจฉริยะ (Smart Police) เพื่อวิเคราะห์อัตลักษณ์บุคคลและยานพาหนะที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพื่อใช้รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยหลักการทำงานของระบบตำรวจอัจฉริยะ จะติดตั้งกล้อง CCTV ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในกการโจรกรรม เพื่อตรวจจับบุคคลที่มีอำพรางอาวุธ โดยวิเคราะห์จากภาพจากกล้อง CCTV ด้วยการประมวลผลภาพและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ในการเฝ้าระวังและตรวจจับสิ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อมีการโจรกรรมหรือเหตุการผิดปกติ ระบบจะแจ้งเตือนเหตุการณ์เข้ามาที่ศูนย์เฝ้าระวังภายในสถานีตำรวจ เพื่อให้ตำรวจไปตรวจสอบความผิดเบื้องต้น และไปพื้นที่เกิดเหตุได้ทันเหตุการณ์เพื่อดำเนินการป้องกันหรือระงับเหตุ ในกรณีที่มีการหลบหนี ระบบจะติดตามรถยนต์ หรือ รถมอเตอร์ไซด์ พร้อมระบุเส้นทางที่สามารถใช้ในการหลบหนีโดยใช้การติดตามจากลักษณะของยานพาหนะ และป้ายทะเบียนของยานพาหนะที่ก่อเหตุ เพื่อทำการติดตามและระงับเหตุได้ ดังนั้นระบบตำรวจอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นเป็นการร่วมมือของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 มูลนิธิฉะเชิงเทราเพื่อการพัฒนา และสำนักงานเมืองอัจฉริยะจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อป้องกันและป้องปรามการเกิดอาชญากรรม เพิ่มความปลอดภัยสาธารณะและความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งเป็นพื้นที่ในเขต EEC ซึ่งเป็นแหล่งเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ และเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน ตลอดจนถ่ายทอดองค์ความรู้การใช้งานนวัตกรรมและการเขียนให้แก่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ในการนำเทคโนโลยีไปใช้งานจริงและสามารถพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมได้ใช้เอง ซึ่งเป็นการพัฒนาแบบต่อเนื่องในระยะยาวเพื่อให้เกิดความยั่งยืนและนําข้อมูลไปใช้ประโยชน์ด้านการวางแผนการดำเนินการรักษาความปลอดภัยและแผนการท่องเที่ยวของจังหวัดฉะเชิงเทรา

ผลของการเสริมฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ต่อสมรรถภาพการเจริญเติบโต สัณฐานวิทยาของลำไส้ จุลินทรีย์ในลำไส้ ดัชนีความเครียด คุณภาพซาก และ คุณภาพเนื้อของไก่เนื้อ

คณะเทคโนโลยีการเกษตร

ผลของการเสริมฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ต่อสมรรถภาพการเจริญเติบโต สัณฐานวิทยาของลำไส้ จุลินทรีย์ในลำไส้ ดัชนีความเครียด คุณภาพซาก และ คุณภาพเนื้อของไก่เนื้อ

การเสริมฟรุคโตโอลิโกแซ็กคาไรด์ (FOS) ในอาหารไก่เนื้อภายใต้สภาวะเครียดโดยการเลี้ยงในที่หนาเเน่นและใช้วัสดุรองพื้นเก่าไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในด้านประสิทธิภาพการเจริญเติบโต คุณภาพซาก และคุณภาพเนื้อ (p>0.05) อย่างไรก็ตาม การเสริม FOS ช่วยปรับปรุงสุขภาพของลำไส้โดยเพิ่มอัตราส่วนความสูงวิลลัสต่อความลึกของคริปท์ ทำให้จำนวนแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสเพิ่มขึ้น และจำนวน Escherichia coli ลดลง นอกจากนี้ อัตราส่วนเฮเทอโรฟิลต่อลิมโฟไซต์ลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงระดับความเครียดที่ลดลง

มิเตอร์ตรวจปรอทแบบพกพา

คณะวิทยาศาสตร์

มิเตอร์ตรวจปรอทแบบพกพา

งานวิจัยนี้ เสนอการสร้างอุปกรณ์ต้นแบบ "มิเตอร์ตรวจปรอทแบบพกพา" (Handheld Mercury Meter) โดยใช้ทรานซิสเตอร์สนามไฟฟ้าชนิดไวต่อไอออนเป็นแพลตฟอร์มในการตรวจวัดตามหลักการโพเทนชิโอเมตรี ได้สังเคราะห์เยื่อเลือกผ่านที่มีความจำเพาะเจาะจงกับปรอท (II) พบว่ามิเตอร์ที่พัฒนาขึ้น ตอบสนองต่อปรอทได้ดี มีความแม่นและความเที่ยงสูง (ค่าร้อยละของการวิเคราะห์คืนกลับอยู่ในช่วง 92.55 – 109.32 และค่าร้อยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพัทธ์เท่ากับ 2.38) เมื่อนำไปประยุกต์ใช้กับตัวอย่างน้ำและเครื่องสำอางที่มีการเติมสารมาตรฐานปรอทลงไป พบว่าผลการวิเคราะห์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 เมื่อเปรียบเทียบกับการวิเคราะห์ด้วยวิธีเชิงเครื่องมือ (ICP-OES) ซึ่งเป็นเครื่องขนาดใหญ่ นำไปใช้กับงานภาคสนามไม่ได้