การออกแบบสวนสาธารณะ Dreamscape Park ในพื้นที่ 50 ไร่ ออกแบบอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ ART โดยการออกแบบมุ่งเน้นการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว ควบคู่ไปกับการเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย มีแลนด์มาร์กเป็นบ่อน้ำรูปหยดหมึกและอัฒจันทร์ขนาดกลางไว้ทำกิจกรรมต่างๆ มีการเพิ่มพื้นที่พักผ่อนได้แก่ คาเฟ่ พื้นที่นั่งชิล โซนกิจกรรมกลางแจ้ง โซนกีฬาได้แก่ สนามบาสเกตบอล สนามตะกร้อ ทางเดิน-ทางวิ่งรอบสวน โซนสัตว์เลี้ยง โซนสนามเด็ก สวนประจำจุดต่างๆ และเส้นทางสัญจรสามารถเข้าถึงได้ทั่วพื้นที่ ผู้ใช้งานสามารถมาผักผ่อนได้อย่างสบายใจและทำกิจกรรมตามความต้องการได้อย่างเต็มที่
สวนสาธารณะเดิมอาจขาดการบำรุงรักษา ขาดฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนยุคใหม่ หรือมีการออกแบบที่ไม่รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ส่งผลให้สวนสาธารณะไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มศักยภาพ การทำสวนสาธารณะเดิมให้เป็นพื้นที่ใหม่ที่ทันสมัยและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็น การออกแบบครั้งนี้ไม่เพียงมุ่งเน้นการเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและความสวยงาม แต่ยังคำนึงถึงการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว และการสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้คนออกมาใช้พื้นที่สาธารณะมากขึ้น โครงการนี้มีความสำคัญเพราะช่วยคืนชีวิตให้กับสวนสาธารณะที่เคยถูกละเลย และเปลี่ยนให้เป็นศูนย์กลางกิจกรรมของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ หรือพบปะสังสรรค์ นอกจากนี้ การออกแบบใหม่ยังช่วยเสริมสร้างอัตลักษณ์ให้กับพื้นที่ ให้สวนแห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ดึงดูดผู้คน
คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อระบุปัจจัยรูปร่างภายนอกของแปรงสีฟันที่มีผลต่อการเลือกซื้อแปรงสีฟันของผู้บริโภคกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรก ทำการจำแนกปัจจัยรูปร่างภายนอกของแปรงสีฟันจากวรรณกรรม งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบแปรงสีฟันที่จำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบัน เพื่อสรุปเป็นปัจจัยรูปร่างภายนอกของแปรงสีฟัน ขั้นตอนที่สอง นำผลสรุปปัจจัยรูปร่างภายนอกของแปรงสีฟันไปสร้างแบบสอบถามด้านการตัดสินใจซื้อ ด้านความงาม และด้านการใช้งานแปรงสีฟัน โดยเก็บข้อมูลกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ จำนวน 30 คน ที่มีต่อรูปร่างภายนอกแปรงสีฟัน ขั้นตอนสุดท้าย วิเคราะห์และสรุปข้อมูลปัจจัยด้านรูปร่างภายนอกที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อแปรงสีฟันของเบบี้บูมเมอร์ในสามด้าน รายงานผลในรูปแบบร้อยละ และจัดลำดับ ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยด้านรูปร่างภายนอกที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อแปรงสีฟันมากที่สุดคือแปรงสีฟันที่มี “ด้ามจับแบบโค้ง” คิดเป็นร้อยละ 80 รองลงมาเป็น “ขนแปรงแบบหลายระดับ” คิดเป็นร้อยละ 70 “ตำแหน่งนิ้วหัวแม่มือแบบผสมวัสดุยาง” คิดเป็นร้อยละ 53.3 “การแบ่งชิ้นส่วนของด้ามแปรงสีฟันแบบมากกว่าสองชิ้น” คิดเป็นร้อยละ 50 และ “ภาพรวมแบบตรงยกระดับ” คิดเป็นร้อยละ 40 ตามลำดับ ในส่วนของเหตุผลการตัดสินใจเลือกชื้อแปรงสีฟันที่มีด้ามจับแบบโค้งนั้นเพราะความสวยงามมากกว่าการใช้งาน เลือกชื้อแปรงสีฟันที่มีขนแปรงแบบหลายระดับเพราะการใช้งานมากกว่าความสวยงาม เลือกชื้อแปรงสีฟันที่มีตำแหน่งนิ้วหัวแม่มือแบบผสมวัสดุยางเพราะการใช้งานมากกว่าความสวยงาม เลือกชื้อแปรงสีฟันที่มีการแบ่งชิ้นส่วนของด้ามแปรงสีฟันแบบมากกว่าสองชิ้นเพราะการใช้งานมากกว่าความสวยงาม เลือกชื้อแปรงสีฟันที่มีภาพรวมแบบตรงยกระดับเพราะความสวยงามมากกว่าการใช้งาน
คณะอุตสาหกรรมอาหาร
การปฏิบัติกิจกรรมการดำเนินงานของโครงการประกอบด้วยการตรวจเชื้อจุลินทรีย์ในตัวอย่างอาหาร สุขลักษณะมือผู้ปรุง/ผู้สัมผัสอาหาร ภาชนะ และอุปกรณ์ การอบรมให้ความรู้เรื่องสุขาภิบาลอาหารและสุขวิทยาส่วนบุคคล สภาพการสุขาภิบาลอาหารของโรงอาหารและสุขลักษณะร่างกายของผู้ปรุงอาหาร โดยทางหลักสูตรการจัดการความปลอดภัยอาหารร่วมกับสำนักงานบริหารทรัพย์สิน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังวางแผนปฏิบัติการประเมินสถานที่จำหน่ายอาหารตามหลักมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร SAN 20 ข้อกำหนด ตรวจการปนเปื้อนเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรียในอาหาร ภาชนะอุปกรณ์ มือผู้สัมผัสโดยใช้ชุดตรวจสอบ อ.13 จำนวน 6 ตัวอย่าง เช่น อาหารปรุงสำเร็จ พื้นที่เตรียมหน้าร้าน มือผู้สัมผัสอาหาร นอกจากนี้ยังมีการตรวจการปนเปื้อนเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรียในน้ำใช้ น้ำแข็งด้วยชุดตรวจสอบ อ.11 ผลวิเคราะห์ที่ได้ทั้งทางกายภาพ จุลินทรีย์และเคมีเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยในการผลิตและบริการอาหารของโรงอาหารภายในสถาบัน
คณะวิศวกรรมศาสตร์
โครงการนี้จัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปัญหาในทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนับและแยกเซลล์เม็ดเลือดจากตัวอย่าง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความแม่นยำสูง เพื่อช่วยลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ ทางผู้จัดทำจึงได้พัฒนา แพลตฟอร์มและระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถจำแนกประเภทและนับจำนวนเซลล์จากภาพตัวอย่างได้โดยอัตโนมัติ ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผ่อนแรงนักเทคนิคการแพทย์ให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาในการตรวจวิเคราะห์ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีในวงการแพทย์ เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานในระดับห้องเรียน ห้องปฏิบัติการจนถึงโรงพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ